หน้าแรก
โศกนาฏกรรมสลด กลุ่มป้า 11 คน ถ่ายคลิปเต้นตามเทรนด์โซเชียลกลางเขื่อนฮิต กลับกลายเป็นนาทีมรณะ น้ำทะลักซัดเสียชีวิต 7 ราย
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นที่เขื่อนยวี่หลินปา ในเมืองย่าอาน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยเขื่อนดังกล่าวเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ก่อนที่จะกลายสถานที่รู้จักบนโลกออนไลน์ มีผู้คนแห่ไปถ่ายคลิป จนเกิดกระแสฮิตในโซเชียล
กระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้หญิงอายุราว 60 ปีจำนวน 11 คน รวมกลุ่มกันลงไปเต้นทำคอนเทนต์กลางเขื่อนตามรอยคลิปดังในโซเชียลจีน แต่กลับเกิดโศกนาฏกรรมนำไปสู่การสูญเสียดับ 7 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย
https://www.youtube.com/watch?v=Wmr5Uwtu2s8
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น ระบุว่า เหตุการณ์สุดสลดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มหญิงกลุ่มนี้มีอายุประมาณ 60 ปี ได้พากันลงไปที่บริเวณกลางเขื่อน ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นที่กั้นทรงโค้งเล็กๆ ลักษณะคล้ายกับกลีบดอกไม้ซ้อนกันจำนวนมาก จนกลายเป็นจุดถ่ายรูป และคลิปวิดีโออย่างล้นหลาม
เช่นเดียวกับกลุ่มคุณป้ากลุ่มนี้ โดยขณะที่กลุ่มของคุณป้ากำลังถ่ายคลิปวิดีโออย่างมีความสุข แค่ 10 วินาทีต่อมา จู่ๆ น้ำในแม่น้ำหลงซีทางต้นเขื่อนก็สูงขึ้น ก่อนที่น้ำจะทะลักเข้ามาในเขื่อนอย่างรวดเร็ว พัดร่างของคุณป้าทั้ง 11 คนจมหายไปอยู่ใต้น้ำ
ภาพประกอบ
ขณะที่ พวกเธอพยายามตะเกียกตะกายเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ด้วยกระแสน้ำที่พัดเชี่ยวและแรง จนคุณป้าไม่สามารถจะพยยุงร่างตัวเองให้ลอยเหนือน้ำได้ ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์ก็ไม่กล้าช่วย เพราะกลัวอันตรายเช่นกัน
สุดท้าย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งเหตุรีบปฏิบัติการเข้าช่วยเหลือโดยทันที อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้ประสบภัย 11 ราย มีผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตจำนวน 7 ราย ส่วนอีก 4 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการดูแลทางแพทย์
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจและสะเทือนใจต่อผู้คนเป็นวงกว้าง จนเกิดการตั้งคำถามว่า เหตุใดน้ำในแม่น้ำจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน รวมทั้งการเปิดประตูกั้นแม่น้ำของเขื่อน อาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ภาพประกอบ
นอกจากนี้ ยังมีการถกเถียงของชาวเน็ตที่อาศัยในท้องถิ่นบางรายว่า ในความเป็นจริงมาตรการความปลอดภัยของเขื่อนดังกล่าวไม่สมบูรณ์แบบ และไม่มีป้ายเตือนความปลอดภัย มีเพียงบุคลากรของคณะกรรมการหมู่บ้านและฝ่ายอนุรักษ์น้ำ ที่คอยห้ามปรามไม่ให้ผู้คนลงไปในเขื่อน
ข่าวโดย
