สหวิชาชีพสอบปากคำ นักเรียนเหยื่อครูโรงเรียนแม่แมะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว เพิ่มโดยมีผู้ปกครองเด็กนักเรียนทั้ง 3 คน เข้าร่วมให้ปากคำ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงดาว แจ้ง 2 ข้อหา ครูแข้งโหดเตะนักเรียน ขณะที่ผู้ปกครอง หนึ่งในเหยื่อครูแข้งโหดเผยลูกชายวัย 10 ขวบ ไม่อยากไปโรงเรียนโดยไม่ทราบสาเหตุ จนต้องย้ายโรงเรียน
ความคืบหน้ากรณีที่ คุณครูรักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่แมะ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิดภาพครูชาย ที่มีการทำโทษเด็กนักเรียนชาย ที่พักหอพักกินนอนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว ซึ่งในคลิปมีการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนชายชื่อบอย นามสมมุติ ชั้น ป.3 อายุเพียง 10 ขวบ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ครูผู้ดูแลหอพักคนเดียวกันนี้ยังได้ลงโทษเด็กนักเรียนชายอายุ 11 ปี ที่คิดว่าไปพังประตูห้องน้ำ
นอกจากนี้แล้วยังพบว่ามีผู้บริหารบางคนเบิกเงินที่เป็นบริจาคสำหรับเด็กด้อยโอกาส นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีการเบิกเงินอ้างว่าไปราชการที่จังหวัดภูเก็ต มีทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเหมารถ ค่าน้ำมันรถ รวมเป็นเงินกว่า 37,100 บาท นอกจากนี้ยังทราบด้วยว่ามีการเบิกเงินจากกองทุนเดินทางไปที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อไปซื้อโซล่าเซลล์ ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินจากบัญชีกองทุนสนับสนุนของโรงเรียนหรือที่เรียกว่าเงินบริจาค แต่กลับพบว่านำเงินบางส่วนไปเที่ยวคาราโอเกะ
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงดาว นำเด็กนักเรียน 3 คน พร้อมกับผู้ปกครองเข้าพบทีมสหวิชาชีพที่ประกอบด้วยพนักงานสอบสวน อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา สอบถามปากคำเด็กตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชายทั้ง 3 คนเข้าร่วมรับฟังและให้ปากคำด้วย
ขณะที่นายศักดิ์ นามสมมุติ พ่อของเด็กชายบอย นามสมมุติ เด็กนักเรียนชั้น ป.3 หนึ่งในเหยื่อครูแข้งโหด เปิดเผยว่า ตอนต้นปี ช่วงที่เกิดเหตุลูกชายได้เล่าว่าไม่อยากไปโรงเรียนตอนแรกก็ไม่ได้สงสัยอะไร แต่พอช่วงหลังๆลูกชายพยายามรบเร้าขอย้ายโรงเรียน จึงย้ายลูกชายออกจากโรงเรียนแม่แมะ มาเรียนที่โรงเรียนแม่สาบ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นลูกก็ไปโรงเรียนตามปรกติ จนทราบภายหลังว่าสาเหตุที่ลุกชายขอย้ายโรงเรียนเพราะว่าถูกครูผู้ชายคนดังกล่าวทำโทษ หลังจากที่เห็นคลิบวีดีโอที่ลูกชายตนถูกครูคนดังกล่าวทำร้ายร่างกายตนและคนในครอบครัวรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนคิดมาและนอนไม่หลับและอยากบอกกับครูคนดังกล่าวว่าอย่าไปทำพฤติกรรมแบบนี้อีกเป็นอันขาดส่วนในเรื่องคดีความตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องครูคนดังกล่าวใหถึงที่สุด และครูคนดังกล่าวยังไม่ได้ติดต่อมาพูดคุยขอโทษกับตนและคนในครอบครัวแต่อย่างใด