เชียงใหม่ – สะเทือนใจคนรักสัตว์! พบสุนัขจรจัดตลอดเส้นทางขึ้นดอยสุเทพถูกวางยาพิษฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมแล้วหลายตัวตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านตัวแทนมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว หวัง จนท.ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายทารุณกรรมสัตว์
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าเง เพจเฟซบุ๊ก “มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation-WDT” โพสต์เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 66 เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตลอดเส้นทางตั้งแต่ด้านล่างขึ้นไปจนถึงบนดอยสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ถูกวางยาพิษฆ่าตายไปหลายตัว ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณอย่างมาก โดยสุนัขที่ถูกฆ่าตายด้วยการวางยาพิษดังกล่าวนั้นเป็นสุนัขที่ทางกลุ่มจิตอาสาคอยช่วยกันดูแลให้อาหาร วัคซีน และทำหมันเพื่อควบคุมประชากร แต่กลับถูกกระทำและกำจัดทิ้งอย่างเหี้ยมโหด ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ #วางยาเบื่อหมาบนดอยสุเทพจับมือใครดมไม่ได้ 31.8.66 เวลาประมาณ 6-7 โมงเช้า พบน้องหมาบนดอยสุเทพถูกวางยาเบื่อตายอนาถ โดยที่ก่อนหน้านี้จิตอาสาที่ดูแลและจัดการทำหมันสุนัขบนดอยสุเทพเเจ้งร้องเรียน WDT ทาง จนท.อุทยานฯ และกลุ่มปั่นจักรยานได้พบสุนัขตายหลายตัวในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
จากรูปการณ์ทาง จนท.คาดว่าน่าจะถูกวางยา ซึ่งเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะทางจนท.และกลุ่มจิตอาสาได้ร่วมมือกันจับสุนัขมาทำหมันด้วยความยากลำบากและเสียสละ ซึ่งทุกคนรับทราบอยู่แล้วว่าจะทำหมันครั้งที่ 4 ในวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายนนี้ และได้มีหนังสือถึงอุทยาน ปศุสัตว์และคณะสัตวแพทย์เเจ้งเรื่องการทำหมันเเล้ว เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียกับทางอุทยานฯ จึงต้องเรียนให้ทางหัวหน้าอุทยานฯ รับทราบ และได้นำเสนอข่าวเพื่อชี้แจงว่าทางอุทยานฯ ได้มีโครงการจัดระเบียบสุนัขจรจัดมาอย่างต่อเนื่อง การกำจัดสุนัขด้วยวิธีไร้มนุษยธรรมนี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากผู้ใดพบเห็นการกระทำนี้โปรดเเจ้งให้ทางอุทยานฯ ทราบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและสวัสดิภาพสัตว์ต่อไป” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าวรายงานข่าวแจ้งว่า ทางตัวแทนมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งช่วงสายวันนี้ (1 ก.ย. 66) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยตัวแทนมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ร่วมกันลงพื้นที่จุดที่พบซากสุนัขตาย และนำไปฝังกลบบริเวณใกล้จุดชมวิวทางขึ้นดอยสุเทพ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานนำไปใช้ประกอบในการสืบสวนติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยนางสุภาณี จันทร์คำอ้าย เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากจิตอาสาที่ช่วยดูแลสุนัขในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และผู้ที่ขี่จักรยานออกกำลังกายตามเส้นทางดังกล่าวว่าพบสุนัขตายอย่างผิดปกติหลายตัว
โดยครั้งแรกพบสุนัขตายจำนวน 2 ตัวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ และล่าสุดวานนี้พบตายอีก 4 ตัว ซึ่งสุนัขที่ตายทั้งหมดเป็นสุนัขที่ทางกลุ่มจิตอาสาคอยช่วยดูแลและทำหมันให้แล้ว เบื้องต้นจากลักษณะการตายของสุนัขทุกตัวคาดว่าน่าจะเป็นการถูกวางยาพิษผสมในอาหารนำมาให้กินจนตาย ซึ่งยอมรับว่าสุนัขดังกล่าวเป็นสุนัขจรจัด ที่อาจจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับบางคน อย่างไรก็ตามไม่สมควรที่จะต้องมาถูกกำจัดทิ้งด้วยวิธีการวางยาพิษฆ่าให้ตายอย่างโหดร้ายเช่นนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้ความเมตตาอย่างยิ่ง และผิดกฎหมายด้วย โดยทางมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้วเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายให้จงได้ ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ต้องสงสัยอยู่รายหนึ่งเป็นผู้ที่มีการโพสต์คล้ายข่มขู่จะก่อเหตุกับสุนัขจรจัด และหากผู้ใดมีข้อมูลเพิ่มเติมสามารถแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมได้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วางยาพิษฆ่าสุนัขจรจัดในครั้งนี้แล้ว ได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์โหดร้ายทารุณและสะเทือนใจคนรักสัตว์เกิดขึ้นซ้ำอีก โดยในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ช่วงตั้งแต่เชิงดอยจนถึงบนดอยสุเทพนั้น ตลอดเส้นทางคาดว่าน่าจะมีสุนัขจรจัดมากถึงประมาณ 100 ตัว ซึ่งในช่วงประมาณ 1 ปีผ่านมาทางกลุ่มจิตอาสาได้พยายามช่วยกันทำหมันให้สุนัขจรจัดในพื้นที่นี้ไปแล้วประมาณ 50 ตัว และกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมประชากร และแก้ไขปัญหาในระยะยาว
ด้านนายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยในส่วนของซากสุนัขจรจัดที่ตายนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่นำไปฝังกลบแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราดูแลไม่ให้สุนัขจรจัดก่อความเดือดร้อนรำคาญให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยอมรับว่าสุนัขจรจัดที่อยู่ในพื้นที่ก่อปัญหาให้พอสมควรจากการที่มีผู้นำมาปล่อยทิ้ง ซึ่งอยากเรียกร้องวิงวอนเจ้าของสุนัขที่เลี้ยงไม่ไหวแล้วอย่านำมาปล่อยทิ้งในเขตอุทยานฯ อีกเลย