เชียงใหม่ – นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) ระบุท่องเที่ยวเชียงใหม่ช่วงหยุดยาว 6 วันสุดคึกคัก ส่งผลยอดเข้าพักโรงแรมทะลุ 80% ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ขับรถส่วนตัวท่องเที่ยวและไม่ได้จองล่วงหน้า คาดเงินสะพัดเฉียด 1,000 ล้านบาท
เมื่อวานนี้ (2 ส.ค. 66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ตลอดช่วงวันหยุดยาว 6 วัน เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาประจำปี 2566 เป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก โดยนายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้โรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่มีอัตราการเข้าพักสูงกว่าร้อยละ 80 และหลายโรงแรมมีการเข้าพักเต็มด้วย โดยเฉพาะโรงแรมที่พักย่านนิมมานเหมินท์ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีช่วงวันหยุดยาวดังกล่าวนี้นั้น ภาพรวมอัตราการเข้าพักโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่ประมาณร้อยละ 40-50 เท่านั้น แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากตะวันออกกลางและอิสราเอล ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนประมาณร้อยละ 20-30 ส่วนที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย
ขณะที่เมื่อรัฐบาลมีการประกาศให้วันที่ 31 ก.ค. 66 เป็นวันหยุดเพิ่มเติมและรวมเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 6 วันนั้น ส่งผลทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จองห้องพักล่วงหน้าและวอล์กอิน ซึ่งเป็นพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยในปัจจุบันที่มักไม่ได้วางแผนล่วงหน้าและนิยมขับรถส่วนตัวเดินทางท่องเที่ยว หากอยากแวะเที่ยวหรือพักที่ใดก็แวะเลย ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าวนี้มีปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งเป็นผลมาจากราคาตั๋วเครื่องบินที่แพงขึ้นมาก
ทั้งนี้ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) ระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่ยังคงเป็นจุดหมายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย โดยจุดขายอยู่ที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ, อาหารการกิน, วัฒนธรรม และมีจุดเช็กอินที่ดึงดูดใจมากมาย ซึ่งจากการประเมินร่วมกันของผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นคาดว่าตลอดช่วงวันหยุดยาว 6 วัน จังหวัดเชียงใหม่น่าจะมีเงินรายได้สะพัดจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และน่าจะสูงใกล้เคียงถึง 1,000 ล้านบาท โดยคำนวณจากการที่นักท่องเที่ยวเข้าพักเฉลี่ยคนละ 2 วัน และมีการใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 3,000-5,000 บาทต่อวัน
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์