สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผย 3 พฤศจิกายน 2566 ดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี เริ่มสังเกตได้ทางทิศตะวันออก หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ปรากฏสุกสว่างตลอดคืน หากฟ้าใสไร้ฝน ชมด้วยตาเปล่าได้ทั่วประเทศ เตรียมเปิด 5 หอดูดาว ชวนคนไทยส่องดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สงขลา และขอนแก่น ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สดร. เปิดเผยว่า วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ดาวพฤหัสบดีจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Jupiter Opposition) หมายถึง ตำแหน่งที่ดวงอาทิตย์ โลก และดาวพฤหัสบดี เรียงอยู่ในเส้นตรงเดียวกัน มีโลกอยู่ตรงกลาง ส่งผลให้ดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 595 ล้านกิโลเมตร ในวันดังกล่าว เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดาวพฤหัสบดีจะปรากฏสว่างทางทิศตะวันออก สังเกตได้ด้วยตาเปล่า นานตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า หากมองผ่านกล้องโทรทรรศน์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว ที่มีกำลังขยายตั้งแต่ 30 เท่าขึ้นไป จะสามารถสังเกตเห็น “ดวงจันทร์กาลิเลียน” ทั้ง 4 ดวง ได้แก่ ไอโอ ยูโรปา แกนีมีด คัลลิสโต รวมถึง “แถบเมฆ” ที่สวยงามของดาวพฤหัสบดี และหากใช้กำลังขยาย 100 เท่าขึ้นไป จะสามารถเห็น “จุดแดงใหญ่” พายุหมุนยักษ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าโลกถึง 1.3 เท่า ได้อย่างชัดเจน
สดร. เตรียมจัดกิจกรรม “เปิดเทศกาลชมดาว…รับลมหนาว ในคืนดาวพฤหัสบดีใกล้โลก” คืนวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ประเดิมอีเวนต์แรกของฤดูกาลดูดาวหน้าหนาว ชวนส่องดาวพฤหัสบดีผ่านกล้องโทรทรรศน์หลากหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว จนถึงขนาดใหญ่ 0.7 เมตร พบกันได้ที่จุดสังเกตการณ์หลัก 5 แห่ง ได้แก่ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สงขลา และขอนแก่น ตั้งแต่เวลา 18:00 – 22:00 น. ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือรับชม LIVE ปรากฏการณ์ทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้ตั้งแต่เวลา 19:00 น. เป็นต้นไป