ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้(14มิ.ย.67) ที่ว่าการอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดดอยสะเก็ด พร้อมด้วยตัวแทนชาวชุมชนมุสลิมบ้านเชิงดอยหรือมัสยิดดอยสะเก็ด(อัล-ฟัฎลิ)และชาวบ้านชุมชนบ้านเชิงดอย ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ รวมตัวกันชูป้ายคัดค้านและยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมพร้อมให้ตรวจสอบกรณีเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย.67 เพิ่งทราบว่าที่ดินสาธารณะประโยชน์เนื้อที่ประมาณ4ไร่ ในพื้นที่บ้านเชิงดอย หมู่ที่ 3 ตำบลดอยสะเก็ด ที่ชุมชนใช้เป็นสุสานฝังศพชาวมุสลิม(กุโบร์)มานานเกือบ100ปี ได้มีการออกเอกสารสิทธิ์ให้บุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับชุมชนมุสลิมบ้านเชิงดอย ตั้งแต่ปี 2565 และเตรียมนำไปใช้ประโยชน์
โดยเบื้องต้นนางวิมลรัตน์ หลอดเข็ม ปลัดอาวุโสอำเภอดอยสะเก็ด เป็นผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอดอยสะเก็ด รับหนังสือดังกล่าวไว้ พร้อมเตรียมประสานงานหน่วยงานเกี่ยวข้องและดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อตให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายตามกระบวนการต่อไป ขณะที่ทางด้านกลุ่มชาวชุมชนมุสลิมบ้านเชิงดอย ได้เดินทางต่อไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่สาขาดอยสะเก็ด เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ตัวแทนชาวชุมชนมุสลิมบ้านเชิงดอย ระบุว่า การยื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมอำเภอดอยสะเก็ด ครั้งนี้ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากเมื่อต้นเดือน มิ.ย.67 เพิ่งทราบว่า ที่ดินเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ที่เป็นสุสานฝังศพของชาวมุสลิมในชุมชนบ้านเชิงดอย มานานเกือบ100ปี ได้มีการออกเอกสารสิทธิ์ให้กับบุคคลหรือกลุ่มบุคคล จากนอกพื้นที่ที่มีที่ดินอยู่ติดกัน โดยที่ไม่มีการแจ้งหรือบอกกล่าวสอบถามชุมชนในพื้นที่เลย จนกระทั่งล่าสุดเพิ่งทราบว่ามีการเตรียมที่จะจัดตั้งสุสานใหม่ในที่ดินแปลงติดกันโดยการรวมกับสุสานเดิมเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงขั้นตอนการขออนุญาต ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นนั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรมและคัดค้านการออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว พร้อมขอให้มีการ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และคืนที่ดินดังกล่าวให้ชาวมุสลิมชุมชนบ้านเชิงดอยได้ใช้ประโยชน์ดังเดิม