ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ ( ผบ.นบ.ยส.35 ) เผยยาเสพติดมหาศาลรอทะลักเข้า พบมีปรับรูปแบบนำเฮโรอีน-ไอซ์เข้าชายแดนเพิ่มอีก หวังหาตลาดใหม่ในต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 เวลา 10.30 น. ที่ ห้องประชุม นบ.ยส.35 อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลเอกนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ ( ผบ.นบ.ยส.35 ) เปิดเผยต่อสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ ว่าภายหลังจากที่ นบ.ยส.35 จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ภายใน 1 ปี โดยเฉพาะชายแดนภาคเหนือ 6 จังหวัด 18 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.66 ถึงปัจจุบันสามารถยึดยาบ้ากว่า 210 ล้านเม็ด ไอซ์ 2,607 กิโลกรัม, เฮโรอีน 254 กก. ฝิ่นดิบ 190 กก., คีตามีน 21 กก., จับกุมผู้ต้องหา 1,586 ราย, กลุ่มขบวนการ เสียชีวิต 25 ศพ และมีการปะทะกับกลุ่มขบวนการ 38 ครั้ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชายแดนด้าน อ.ฝาง, อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่เป็นพื้นที่ต่อเนื่องชายแดนและพื้นที่ตอนใน มีการปิดล้อมตรวจค้น ขยายผลยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการรายสำคัญ 5 ครั้ง ติดตามจับกุมนอกพื้นที่ 6 ครั้ง ถือว่าเป็นผลงานที่ดี เพราะที่ผ่านมา นบ.ยส.35 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการจัดหน่วยเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ด้านการข่าวพบว่า กลุ่มขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนมีการเปลี่ยนรูปแบบตลอดเวลา และมีการนำเข้าเฮโรอีน ไอซ์ พร้อมยาบ้าทางชายแดนเพิ่มมากขึ้น เพื่อทดลองตลาดใหม่ ในการหาช่องทางการจำหน่ายนอกประเทศประกอบกับช่วงนี้นักท่องเที่ยวชาวทางตะวันตกเริ่มเข้ามาในพื้นที่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแถบยุโรป อเมริกา ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่นิยมเสพไอซ์ เฮโรอีน และคีตามีน มากกว่าคนไทย
สถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ของประเทศเมียนมายังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้มีการเร่งผลิตยาเสพติด และระบายเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทดแทนยาเสพติด ที่ถูกจับกุมจากความเข้มข้นในการสกัดกั้น ทั้งด้านจังหวัดเชียงใหม่ และเชียงรายในห้วงที่ผ่านมา ปัจจุบันคาดการณ์ว่ายังคงมีปริมาณยาเสพติดพักคอยตามแนวชายแดน ด้านตรงข้ามภาคเหนือของไทย ที่รอการสั่งและนำเข้า โดยเฉพาะยาบ้าไม่น้อยกว่า 80 ล้านเม็ด ไอซ์ ประมาณ 1,000 กก และเฮโรอีนอีกประมาณ 100 กก.
ที่ผ่านมา นบ.ยส.35 ยังคงบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลงตรวจสถานีขนส่งเพื่อรณรงค์และป้องกันการลักลอบขนส่งยาเสพติด ในห้วงเทศกาลสำคัญ และร่วมกับศุลกากรขับเคลื่อนการสกัดกั้น การนำเข้า ส่งออก สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด ผ่านด่านพรมแดน รวมทั้งประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ในการติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดหลบหนีข้ามแดน ตลอดจนขอสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน ป.ป.ส.ในการจัดหาเครื่องมือพิเศษเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ลดความเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และสร้างการรับรู้ การปฏิบัติงานของหน่วย ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ผ่านสื่อในทุกช่องทาง
อย่างไรก็ตาม นบ.ยส.35 ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการสกัดกั้น และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างด้วยความเข้มข้น ทั้งงานด้านการข่าว การสกัดกั้นปราบปราม และด้านการป้องกัน เพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสังคม.