วันที่ 24 เมษายน 2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดเผยว่าข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 23 เมษายน 2566 ไทยพบจุดความร้อนลดลงเหลือ 867 จุด สาเหตุส่วนหนึ่งที่จุดความร้อนไทยลดลงมาจากหลายพื้นที่ตอนบนเกิดฝนตก
เนื่องจากพายุฤดูร้อน ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว ครองอันดับหนึ่งอยู่ที่ 3,139 จุด, เมียนมา 888 จุด, เวียดนาม 463 จุด, กัมพูชา 160 จุด และมาเลเซีย 56 จุด
ข้อมูลจากดาวเทียมระบุอีกว่า จุดความร้อนในประเทศไทยวานนี้พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 256 จุด, ป่าสงวนแห่งชาติ 233 จุด, พื้นที่เกษตร 210 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่น ๆ 93 จุด, พื้นที่เขต สปก. 65 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 10 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ #เพชรบูรณ์ 98 จุด #แพร่ 59 จุด #น่าน 57 จุด ตามลำดับ
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ
ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่าง ๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรง GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่
ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th หรือ ติดตามข้อมูลจาก https://fire.gistda.or.th/dashboard.html และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชั่น “#เช็คฝุ่น”