จนท.เร่งตามตัวเจ้าอาวาสวัดพื้นที่เมืองลี้ฉี่ม่วง พอส่งลาสิกขาเตรียมบำบัดกลับขับรถเผ่นแน่บ

ลำพูน – จนท.เร่งประสานติดตามตัว..เจ้าอาวาสวัดในเมืองลี้ฉี่ม่วง หลังบุกตรวจคาวัด-ส่งพิสูจน์ซ้ำ รพ.ผลเป็นบวกตรงกัน พอส่งลาสิกขา-เตรียมนำเข้าบำบัด กลับขับรถเผ่นแน่บ คาดหนีกลับแม่สอดภูมิลำเนาเดิม

ความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเมื่อ 12 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ว่ามีพระสงฆ์ระดับเจ้าอาวาสรูปหนึ่ง ต.นาทราย อ.ลี้ มีพฤติการณ์คาดว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ต่อมานายวิวัฒน์ จันทร์โอภาส นายอำเภอลี้/ผอ.ศป.ปส.อ.ลี้ ได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคง นำ อส.ลี้ ที่ 5 ดำเนินการตรวจสอบ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว เบื้องต้นพบผลเป็นบวก และเมื่อส่งปัสสาวะยืนยันผล ณ โรงพยาบาลลี้ ให้ผลเป็นบวกเช่นเดียวกัน ขณะที่เจ้าตัวยินยอมสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา จึงมีการประสานคณะสงฆ์อำเภอลี้ให้ดำเนินการลาสิกขาให้เรียบร้อย เพื่อที่จะนัดหมายส่งตัวเข้ารับการบำบัดรักษา ณ ศูนย์คัดกรองต่อไป

แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ได้รับแจ้งจากคณะสงฆ์อำเภอลี้ ว่าระหว่างจะดำเนินการให้ลาสิกขา พระเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวได้ขับรถออกจากวัดไม่ทราบว่าไปที่ไหน แต่คาดว่าน่าจะกลับภูมิลำเนาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และได้ดำเนินการประสานญาติ ว่าหากพบตัว ให้กลับมาดำเนินการลาสิกขาและบำบัดรักษาให้เรียบร้อย มิเช่นนั้นจะดำเนินคดีในฐานความผิดเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.วิชา กันทาสุข ผกก.สภ.ลี้ จ.ลำพูน ระบุว่า เรื่องพระที่ตรวจพบปัสสาวะสีม่วงได้รับรายงานแล้ว พบว่าเป็นเรื่องจริง และพระรูปดังกล่าวได้หลบหนีออกจากวัดไปจริง ในขั้นตอนของกฎหมายก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มาแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวน

เมื่อมีการแจ้งความแล้วตามขั้นตอน ทราบว่าหลบหนีไปเส้นทางอำเภอแม่สอด คาดว่ากลับบ้านหรือหลบไปตั้งหลักเพราะบวชมาจากเขตอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย หากออกหมายเรียก 3 ครั้งไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็จะมีออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามขั้นตอนไม่มีการช่วยเหลือใครแน่นอน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทางคณะสงฆ์ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทราบเรื่องแล้ว แต่ยังปิดเรื่องนี้ไว้เงียบยังไม่ดำเนินการใดๆ และชาวบ้านหวั่งเกรงคาดว่าจะมีการช่วยเหลือกัน เพื่อปกป้องพระรูปดังกล่าวเพราะอำเภอลี้ กลายเป็นเมืองลี้ลับสมชื่อ เมื่อหลายเดือนก่อนก็มีการตรวจพบสารเสพติดในผู้นำระดับผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง แต่เรื่องราวก็เงียบหายไปไม่มีการดำเนินคดีตามขั้นตอนแต่อย่างใด ล่าสุดยังไม่ถึงเดือนเจ้าหน้าที่ได้จับไม้เถื่อนซึ่งเป็นไม้ท่อนจำนวนหลายท่อนในพื้นที่ตำบลแม่ลาน แต่เรื่องราวก็เงียบหาไปกับสายลมเช่นกัน

โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า