รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี ปอยข้าวสาลีล้านนา ครั้งที่ 5 ที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมดันผลผลิตธัญพืชเมืองหนาว รองรับการผลิตสุราชุมชน เมื่อ พ.ร.บ.สุราชุมชน ผ่านการอนุมัติ
นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิด งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี ปอยข้าวสาลีล้านนา ครั้งที่ 5 ซึ่งกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันจัดขึ้น ที่ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์การผลิตข้าวสาลี และ ธัญพืชเมืองหนาวในประเทศประเทศไทย และ เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิต และ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากธัญพืชเมืองหนาว โดยมี นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว พร้อมด้วย นายศิริพงษ์ นำภา นายอำเภอสะเมิง ส่วนราชการ ผู้ประกอบการ ตลอดจนประชาชน และ เกษตรกรชาวอำเภอสะเมิง เข้าร่วมงาน
โดยในปีนี้ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นไปที่การปลูกข้าวบาร์เลย์ พืชเมืองหนาว ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ และ ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความเหมาะกับสภาพภูมิประเทศ และ ภูมิอากาศของภาคเหนือของไทย โดยผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันสวยงามของทุ่งข้าวบาร์เลย์สีทองอร่ามบนพื้นที่นับร้อยไร่ รวมถึงธัญพืชเมืองหนาวสายพันธุ์ต่างๆ ทั้งข้าวสาลี มอลต์ และ ข้าวโอ๊ต
นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ การจัดนิทรรศการแสดงเชื้อพันธุกรรมข้าวสาลี และ ธัญพืชเมืองหนาวกว่า 700 สายพันธุ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต และ การสาธิตการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต้นแบบ จากธัญพืชเมืองหนาวให้แก่เกษตรกร และ ผู้ประกอบการที่สนใจ การประกวดภาพถ่าย และ การแข่งขันประกอบอาหาร จากธัญพืชเมืองหนาว การสาธิตอาหารแนวใหม่สไตล์ฟิวชั่นล้านนา การเปิดกาดมั่ว และ ตลาดนัดล้านนา เพื่อจำหน่ายสินค้า และ ผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่
โดย นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บอกว่า ปัจจุบันประเทศไทย มีการนำเข้าธัญพืชเมืองหนาว จากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะข้าวสาลี และ ข้าวบาร์เลย์ โดยในปีนี้กรมการข้าว และ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิงได้ มีการเปิดตัวข้าวบาร์เลย์ ที่ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์เป็นรุ่นที่ 2 จนมีความเหมาะสมกับประเทศไทย มีความแข็งแรง ทนต่อโรค และ ให้ผลผลิตต่อไร่ที่ดี ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือของไทยยังมีพื้นที่อีกมาก สำหรับรองรับการส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาว ดังนั้น กรมการข้าวจึงได้นำนโยบายของกระทรวงเกษตรสหกรณ์ ในการขยายผลการปลูกพืชเมืองหนาวทดแทนการปลูกข้าวในช่วงฤดูหนาว ไม่ว่าจะเป็นข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต และ มอลต์ เพราะได้ราคาที่สูงกว่า และ ปัจจุบันกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งในส่วนที่เป็นเมล็ดพันธุ์และผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยหากเกษตรกรสนใจก็สามารถมาซื้อเมล็ดพันธุ์ได้ที่กรมการข้าว หรือ หากมีการรวมกลุ่มกันเป็นศูนย์ข้าวชุมชน หรือ เกษตรกรแปลงใหญ่ กรมการข้าวก็จะสนับสนุนเมล็ดพันธุ์มาให้ในราคาที่ถูกลง หรือ ไม่มีค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
สำหรับในส่วนของตลาดรองรับ คาดว่าในอนาคตจะมีความต้องการธัญพืชเมืองหนาวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากขณะนี้ พ.ร.บ.สุราชุมชน ได้ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และ กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาจากสมาชิกวุฒิสภา ทั้งนี้ เมื่อกฎหมาย พ.ร.บ.สุราชุมชน ได้รับการอนุมัติแล้ว กรมการข้าวจะช่วยส่งเสริมในการนำเมล็ดธัญพืชจากศูนย์ข้าวชุมชน และ เกษตรกรแปลงใหญ่มาแปรรูปเป็นสุราชุมชน แถมยังมีการประกันราคาให้อีกด้วย ดังนั้นในวันนี้ต้องขอขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่ได้ให้ความสำคัญของการพัฒนางานวิจัยเกี่ยวกับพืชเมืองหนาว ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพการผลิตธัญพืชเมืองหนาว สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูงได้ในอนาคต