ขบวนการค้ายาเสพติดมีแนวโน้มนำสารตั้งต้นกว่า 30 ชนิด ใช้ในการผลิตยาเสพติดมากขึ้น

นน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35)  ร่วมกับ สำนักงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดภาค 5 (ปปส.ภาค 5) และศุลกากรภาคที่ 3 สกัดสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดผ่านด่านชายแดนภาคเหนือ

เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2567 พลโท กิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) เปิดเผยว่า นบ.ยส.35 ร่วมกับสำนักงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดภาค 5 และสำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 ในการนำมาตรการสกัดกั้น การลักลอบนำเข้าและส่งออกสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด ผ่านด่านชายแดนภาคเหนือ เพื่อสกัดกั้น ยับยั้ง และจับกุมผู้กระทำผิด ไม่ให้สารเคมีถูกลำเลียงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อใช้ในการผลิตยาเสพติดส่งเข้ามายังประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันพบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมีแนวโน้มที่จะนำไปเป็นสารตั้งต้นกว่า 30 ชนิด ใช้ในการผลิตยาเสพติดมากขึ้น

ขณะเดียวกัน นบ.ยส.35ยังให้ความสำคัญกับการสกัดยาเสพติดผ่านระบบโลจิสติกส์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพิ่มเติม 7 อำเภอ ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย อำเภอปาย และปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน, อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย, อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา, อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน และ อำเภอแม่สอด, อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เนื่องจากมีความเสี่ยงในการถูกจับกุมน้อย ต้นทุนต่ำรูปแบบมีทั้งการอำพรางในสินค้าที่จ้างเหมารถขนส่ง ทั้งที่คนขับรู้เห็นและถูกรับจ้างโดยไม่ทราบว่ามียาเสพติดแอบแฝง รวมทั้งยังตรวจพบในรูปแบบส่งพัสดุทางไปรษณีย์ ที่มีที่ตั้งอยู่ในอำเภอชายแดน หรืออำเภอใกล้เคียงเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า