หน้าแรก
ความคืบหน้ากรณีการร้องเรียนการทุจริตที่ดินสาธารณะริมน้ำปิง บริเวณ “หาดก๋ำเบ้อ” บ้านป่าข่อยใต้ หมู่ 2 ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 นายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนกว่า 20 คน ได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว
การเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. กล่าวหาว่าเทศบาลตำบลสันผีเสื้อปล่อยปละละเลยให้มีการถมที่ดินริมน้ำปิง ตั้งสถานีสูบน้ำ และก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดสรรพื้นที่ริมน้ำปิง “หาดก๋ำเบ้อ” เป็นร้านค้าและแผงลอยจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีการเรียกเก็บค่าเช่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 รายละ 70,000-100,000 บาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้ถูกยื่นต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 และนายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเรื่องและเชิญตัวแทนชาวบ้านเข้าชี้แจงแล้ว
ภายหลังการเข้าพบและติดตามความคืบหน้า นายนิรันดร ศรีภักดี ได้ชี้แจงต่อกำนันและผู้นำชุมชนว่า ป.ป.ช. ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าว และได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง มีการสอบพยานและผู้เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 40-50 ปาก เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดีอย่างละเอียด รอบคอบ และเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ซึ่งกำหนดเวลาไต่สวนไว้ไม่เกิน 2 ปี และสามารถขยายเวลาได้อีกไม่เกิน 3 ปี โดยยืนยันว่าจะเร่งรัดดำเนินการในคดีนี้ต่อไป พร้อมทั้งจะทำหนังสือติดตามความคืบหน้าเพื่อชี้แจงให้ประชาชนทราบอีกครั้ง
นายนิรันดร ยังกล่าวว่า คดีบุกรุกที่สาธารณะริมน้ำปิง “หาดก๋ำเบ้อ” ถือเป็นคดีตัวอย่างในการบริหารจัดการพื้นที่ริมน้ำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยไม่ใช่การแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และหากชาวบ้านรายใดถูกผู้มีอิทธิพลข่มขู่คุกคาม สามารถเข้าร่วมโครงการคุ้มครองพยานของ ป.ป.ช. ได้
ด้านนายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ กล่าวว่า พอใจกับคำชี้แจงของ ป.ป.ช. และไม่ได้ติดใจใดๆ เพียงต้องการติดตามความคืบหน้าของคดีและแนวทางการดำเนินงานของ ป.ป.ช. เพื่อนำไปชี้แจงให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับทราบ พร้อมทั้งแสดงความกังวลและขอให้ ป.ป.ช. ช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่อาจถูกข่มขู่คุกคามจากผู้มีอิทธิพล ซึ่งมีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ภายหลังการรับฟังคำชี้แจง กลุ่มชาวบ้านต่างพอใจและได้สลายตัวเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น
