คู่สมรสกลุ่ม LGBTQ นั่งรถถีบสามล้อจดทะเบียนสมรสที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองลำพูน ฉลองสมรสเท่าเทียมวันแรก บรรยากาศอบอวลเต็มไปด้วยความสุขของคู่รักที่มาร่วมจดทะเบียนสมรส ขณะเดียวกันพบคู่รักหญิง วัย 64 ปี และ 59 ปีจดทะเบียนสมรสคู่แรกตั้งแต่เช้าตรู่ คู่รักกลุ่ม LGBTQ พยานรักต่างพากันนั่งรถถีบสามล้อจากอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี เพื่อเข้ามาจดทะเบียนสมรสที่ ที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ฉลองสมรสเท่าเทียมวันแรก
นายยุทธพงศ์ ไชยศร นายอำเภอเมืองลำพูน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ จ.ลำพูน ให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีกับคู่สมรส ทั้ง 3 คู่ ที่จูงมือกันมาจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังกฎหมายสมรสเท่าเทียม หรือพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พุทธศักราช 2567 ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อเดือนกันยายน 2567 และกำหนดเวลาอีก 120 วัน เพื่อปรับปรุงกฎระเบียบกฎหมายต่างๆ ได้ให้สอดคล้อง และมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการวันแรกในวันนี้ คือวันที่ 23 มกราคม 2568 ท่ามกลางเพื่อนๆใน กลุ่มอาสาสมัครเพื่อการพัฒนาชุมชนและการคุ้มครองสิทธิ หรือกลุ่ม VCAP ลำพูนร่วมเป็นสักขีพยาน ในวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้
นายอำเภอเมืองลำพูน เปิดเผยว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันแรกในการเปิดให้มีการจดทะเบียนสมรส ตามกฎหมายสมรสเท่าเท่าเทียม ซึ่งทางรัฐบาลก็ได้มีการปรับปรุงกฎหมายสมรสเท่าเทียมซึ่งทุกหน่วยงานได้จัดเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร สถานที่ สำหรับอำเภอเมืองลำพูนเองก็มีความยินดีและพร้อมให้บริการกับคู่สมรสทุกเพศทุกวัย ที่จะมาจดทะเบียนสมรสตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามก่อนช่วงเช้ามีคู่สมรสยื่นจดทะเบียนสมรสแล้ว 2 คู่ คู่แรกเป็นคู่ผู้หญิงกับ ผู้หญิงอายุ 64 ปี และ 59 ปีจดทะเบียนสมรสคู่แรกตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งทั้งสองคู่ทำงานกะดึกเพิ่งเลิกงานตอนเช้าเข้ามายื่นขอจดทะเบียนสมรสซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีก็เสร็จสิ้น
สำหรับคู่รัก LGBTQ นายภัทรนันท์ แดงบุญ เปิด เผยว่า ตนกับนายจตุพร โนสัก อยู่กินกันมานานถึง 10 ปี วันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี หลังจากที่เมื่อคืนทำงานกะดึก พอช่วงเช้าถือโอกาสพากันมาจดทะเบียนสมรส ซึ่งตนกับแฟนรู้สึกดีใจมากที่มีวันนี้ นอกจากนี้สิทธิการใช้ชีวิตคู่จะเท่าเทียมกับคนอื่นยกตัวอย่างเรื่องทรัพย์สินที่หามาด้วยกันและการทำประกันชีวิตที่ต้องยกผลประโยชน์ให้กันและกันจะทำให้ชีวิตมีความมั่นคงขึ้น
ด้านนางสาวชนรดี พรมเรือง ( และนางสาวกมลวรรณ เพ็ญจิต ทั้งสองกล่าวว่าตนทั้งสองคบหาอยู่กินกันมานานกว่า 7 ปี ดีใจมากที่มีวันนี้หลังจากที่รอมานานวันนี้จึงไม่ลังเลใจเลยในการมาจดทะเบียนสมรส ซึ่งจะทำให้ทั้งสองเข้าถึงสิทธิประโยชน์หลายๆ อย่างหลังจากจดทะเบียนสมรสแล้ว นอกจากนี้ยังรู้สึกดีที่สังคมยอมรับเรามากขึ้น ทำอะไรง่ายขึ้นและเปิดเผยตัวเองได้ อย่างไรก็ตามอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆในกลุ่ม LGBTQ ที่มีคู่รักจูงมือพากันมาจดทะเบียนสมรสซึ่งขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และมีสิทธิประโยชน์คุ้มครองเราและคู่สมรสเรามากขึ้น