เชียงราย – พบเหยื่อน้ำท่วม-ดินถล่มเชียงราย ตายสังเวยเป็น 14 ศพ เฉพาะน้ำป่าไหลหลาก/ดินสไลด์พื้นที่แม่ฟ้าหลวง 5 น้ำกกล้นท่วมเมือง 1 ส่วนแม่สายเจอผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย แต่ต้องรอพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล พื้นที่ได้รับผลกระทบ 9 อำเภอ 167 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (52 ชุมชน) ผู้คนเดือดร้อน 53,000 กว่าครัวเรือน
สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย รายงานว่าอุทกภัยและดินถล่มตั้งแต่วันที่ 9-14 ก.ย. 2567 เกิดขึ้นใน 9 อำเภอ 35 ตำบล 167 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (52 ชุมชน) โดยเฉพาะ อ.แม่สาย อ.เมืองเชียงราย อ.แม่ฟ้าหลวง ฯลฯ ทำให้ตลาดชุมชนเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 53,209 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตร 14,138 ไร่ พบผู้เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 2 ราย โรงเรียนเสียหาย 31 แห่ง ถนน 7 จุด และคอสะพาน 4 จุด
สำหรับกรณีผู้เสียชีวิตนั้นเกิดจากน้ำป่าไหลหลาก 1 ราย จมหายไปกับกระแสน้ำ 1 ราย ดินสไลด์ทับ 4 ราย และอยู่ระหว่างพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีก 8 ราย โดยเริ่มพบผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.จากดินสไลด์เป็นหญิงอายุ 34 ปี ชาว ต.แม่สลองนอก เด็กหญิงอายุ 8 ขวบ และหญิงอายุ 60 ปี ชาว ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง
วันที่ 11 ก.ย.พบผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อ และเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ 11 เดือน ชาว ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง และวันที่ 12 ก.ย.พบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นชายชาวชุมชนป่างิ้ว อ.เมืองเชียงราย ที่เดินลัดเลาะแม่น้ำกกจะไปกู้จักรยานยนต์คืน แต่ถูกน้ำพัดหายไปและพบศพเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับศพที่รอพิสูจน์อัตลักษณ์จำนวน 8 ราย เป็นผู้ประสบเหตุน้ำสายทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาล ต.แม่สาย อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมาทั้งหมด เบื้องต้นทราบว่าเป็นหญิงอายุ 55 ปี ลอยไปติดค้างบริเวณคลองป่าเหมือด หมู่ 6, ชายอายุ 51 ปีจมน้ำบริเวณโรงพยาบาลแม่สาย, ชายอายุ 60 ปี สูญหายไปตั้งแต่น้ำท่วมครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ก.ย. และพบศพเมื่อ 13 ก.ย.บริเวณหน้าด่านพรมแดนศุลกากรตรงทางลงตลาดสายลมจอย
ส่วนที่เหลือไม่ทราบอายุเป็นเพศชาย 2 ราย และเพศหญิง 3 ราย พบศพหลังน้ำลดตามจุดต่างๆ ในฝั่งตะวันออกของเขตเทศบาล ต.แม่สาย โดยบางรายคาดว่าเป็นชาวเมียนมา ส่วนคนได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กชายอายุ 6 ขวบ และเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ที่ประสบเหตุดินสไลด์ที่ อ.แม่ฟ้าหลวง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าสถานการณ์อยู่ในระดับคลี่คลายและเฝ้าระวัง หากไม่มีฝนตกลงมาอีกระดับน้ำในลำน้ำสาย แม่น้ำกก แม่น้ำโขง ก็จะมีแนวโน้มลดลงไปอีกเรื่อยๆ กระนั้น ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ยังคงเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ เตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ กำลังพล ฯลฯ เอาไว้ให้พร้อมอยู่ต่อไป