เย็นเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) มีรายงานข่าวจากชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ระบุว่าได้เกิดอุบัติเหตุเรือโดรสารล่มในแม่น้ำโขงใกล้กับท่าเรือของเขตปกครองพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
เบื้องต้นมีรายงานว่าเรือที่เกิดเหตุเป็นเรือโดยสารสัญชาติ สปป.ลาว ซึ่งไม่ใช่เรือรับส่งคนข้ามแดนไทย-สปป.ลาว-เมียนมา ตามปกติ แต่เป็นเรือเหมาพาชาวเมียนมาจำนวนประมาณ 40 คน เดินทางจากฝั่ง สปป.ลาว เลาะริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขต สปป.ลาว มุ่งหน้าจะไปทางฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก
แต่เมื่อเรือแล่นไปถึงช่วงโค้งของแม่น้ำโขงเครื่องยนต์เกิดดับลงอย่างกะทันหัน และคนขับไม่สามารถควบคุมเรือไปในทิศทางที่ต้องการได้ ประกอบกับแม่น้ำโขงไหลเชี่ยวและมีปริมาณน้ำมากจึงพัดให้เรือล่ม เป็นเหตุให้ลูกเรือและคนขับรวมกันประมาณ 40 คน ตกลงไปในน้ำและหลายคนจมหายไปกับกระแสน้ำ
ส่วนผู้ที่อยู่ใกล้ต่างพากันตื่นตกใจ รวมทั้งมีผู้ที่นำเรือโดยสารเล็กที่จอดอยู่ใกล้เข้าไปช่วยเหลือคนที่จมน้ำได้ประมาณ 10 คน และนำขึ้นฝั่งเมืองต้นผึ้งไป ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบชะตากรรม ทั้งนี้ในช่วงที่เรือล่มมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “นอยคำนวน อินทะวง” ได้ถ่ายคลิปจากฝั่งเมืองต้นผึ้งเอาไว้ได้ในระยะไกล
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุมีเพียงข่าวสารที่สะพัดตามแนวชายแดนเท่านั้น ยังไม่มีความชัดเจนว่าเรือเหมาลำดังกล่าวแล่นมาจากท่าเรือใดใน สปป.ลาว และผู้โดยสารทั้งหมดมีจำนวนเท่าไหร่อย่างชัดเจน รวมทั้งเหตุใดส่วนใหญ่จึงเป็นชาวเมียนมา ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่าในปัจจุบันมีการผลักดันแรงงานผิดกฎหมายใน สปป.ลาว ให้กลับประเทศ ทำให้กลุ่มผู้โดยสารดังกล่าวอาจเป็นชาวเมียนมาที่ถูกผลักดัน จึงว่าจ้างเรือให้พาไปขึ้นฝั่งคาดว่าจะเป็นเมืองพง จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อกลับประเทศนั่นเอง.