สาวผู้เสียหายขึ้นโรงพักเชียงใหม่แจ้งความ 4 ข้อหาหนุ่มหัวร้อนขับรถปาดหน้าขวางดึงกุญแจขว้างทิ้งข้างถนน

เชียงใหม่ – สาวผู้เสียหายพร้อมทนายความขึ้นโรงพักเชียงใหม่แจ้งความดำเนินคดี 4 ข้อหาไอ้หนุ่มหัวร้อนในคลิปขับรถปาดหน้าแล้วลงมาต่อว่าพร้อมดึงกุญแจรถขว้างทิ้งข้างทาง ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด และไม่ขอรับคำขอโทษ พร้อมเผยตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว แถมพบมีเหยื่อโดนกระทำแบบเดียวกันอีกหลายราย และมีการออกหมายจับแล้วที่ สภ.สันทราย แต่ยังลอยนวลก่อเหตุซ้ำซาก

ความคืบหน้ากรณีหญิงสาวโพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ที่ถูกผู้ชายคนหนึ่งขับรถยนต์จี้ท้ายและบีบแตรไล่หลัง ก่อนที่จะแซงแล้วปาดหน้าจอดขวาง พร้อมลงจากรถมาด้วยอารมณ์โมโหและต่อว่าใส่หญิงสาวคนขับรถ รวมทั้งดึงกุญแจรถของหญิงสาวแล้วขว้างทิ้งข้างทาง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 67 บนถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี มุ่งหน้าไปศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงก่อนที่จะลงอุโมงค์ลอดแยก ซึ่งสาเหตุมาจากการที่หญิงสาวขับรถแช่อยู่เลนขวาเพราะไม่คุ้นเส้นทาง ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หญิงสาวคนดังกล่าว รวมทั้งลูกชายอายุ 7 ขวบ และพี่สาว ที่อยู่ด้วยกันในรถ รู้สึกหวาดผวาอย่างมากจากการถูกข่มขู่คุกคาม จึงนำคลิปที่บันทึกไว้เผยแพร่และเตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (7 ก.ค. 67) ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวภิสรินธันญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี หญิงสาวผู้เสียหายจากเหตุดังกล่าว พร้อมทนายความ นำหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุตามคลิป ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจทราบแล้วผู้ก่อเหตุเป็นใคร โดยนางสาวภิสรินธันญ์ยืนยันว่า ต้องการที่จะดำเนินคดัต่อผู้ก่อเหตุจนถึงที่สุดและไม่มีการไกล่เกลี่ยยอมความหรือรับกระเช้าขอโทษอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการกระทำที่เลวร้ายอย่างมาก และต้องการให้บทเรียนผู้ก่อเหตุเพื่อที่จะได้ไม่ไปก่อเหตุเช่นนี้ซ้ำซากอีก

ขณะที่สภาพจิตใจของตัวเองนั้น เวลานี้ยังคงหวาดผวาอยู่ แม้จะผ่านมาแล้วหลายวัน เช่นเดียวกับลูกชายที่ยังหวาดกลัวอย่างมากถึงขั้นร้องไห้ไม่อยากให้ตัวเองขับรถออกจากบ้านไปที่ใดอีก ซึ่งตัวเองทำได้แต่ปลอบใจ พร้อมบอกด้วยว่าหลังจากที่โพสต์คลิปไปแล้วมีผู้ติดต่อเข้ามาให้ข้อมูลว่าเคยตกเป็นผู้เสียหายจากผู้ก่อเหตุรายเดียวกันนี้อีก 5 ราย ซึ่งมีแม่ลูกอ่อนรวมอยู่ด้วย รวมทั้งพบว่าผู้เสียหายรายหนึ่งที่ถูกกระทำเมื่อปี 2566 แล้วเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุรายนี้แล้ว แต่ยังไม่ถูกจับกุมและลอยนวลมาได้จนกระทั่งก่อเหตุกับตัวเอง

ส่วนนายดำรง บุญประคอง ทนายความของนางสาวภิสรินธันญ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุ 4 ข้อหา ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร, ทำให้เสียทรัพย์, ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ และกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ นอกจากนี้กำลังพิจารณาข้อกฎหมายด้วยว่าจะสามารถแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาใดเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ ซึ่งหลักฐานต่างๆ ชัดเจนและมั่นใจว่าเอาผิดผู้ก่อเหตุได้แน่นอน

ขณะเดียวกันนายดำรงเปิดเผยว่า นอกจากนางสาวภิสรินธันญ์ จากการตรวจสอบพบยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกผู้ก่อเหตุรายเดียวกันนี้คุกคามและทำร้ายร่างกายบนท้องถนน โดยผู้เสียหายรายหนึ่งได้ติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือให้ติดตามความคืบหน้าของคดีด้วย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อปี 2566 ในพื้นที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยชายผู้ก่อเหตุได้ขับรถปาดหน้าและลงมาจะดึงกุญแจรถ แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากรถเป็นระบบพุชสตาร์ท จึงลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแทน ซึ่งมีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย แต่ถึงทุกวันนี้คดีไม่มีความคืบหน้า โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปติดตามคดีที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า