เจ้าอาวาสวัดเชียงใหม่โชว์ฤทธิ์ล่องหนไร้ร่องรอย หลังโดนแฉภาพฉาวเปลี่ยนกุฏิเป็นฮาเร็มนัวเนียฉ่ำเด็กผู้ชาย

เชียงใหม่ – จนท.สำนักพุทธ พร้อมพระสังฆาธิการลงพื้นที่ตรวจสอบกุฏิเจ้าอาวาสวัดดังในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ หลังโซเชียลแฉภาพชุดสุดฉาวกอดก่ายนัวเนียหวานฉ่ำกับเด็กผู้ชาย โดยเจ้าตัวเผ่นหายออกไปจากวัดก่อนหน้านี้และยังติดต่อไม่ได้ เบื้องต้นชี้ไม่ถึงขั้นผิดวินัยร้ายแรง เหตุเพราะยังไม่ปรากฏหลักฐานการมีเพศสัมพันธ์และไม่มีผู้เสียหายร้องทุกข์

จากกรณีโซเชียลมีเดียเปิดโปงพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งชอบคลุกคลีใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็กผู้ชายที่ชักชวนมาทำกิจกรรมร่วมกันในกุฏิ โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายขณะที่เจ้าอาวาสกำลังกอดก่ายใกล้ชิดกับเด็กผู้ชายและเด็กหนุ่มมากหน้าหลายตาภายในกุฏินั้น รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวานนี้ (2 พ.ค. 67) เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมพระสังฆาธิการลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดต้นจันทร์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย ที่เป็นจุดเกิดเหตุ โดยเฉพาะในกุฏิ อย่างไรก็ตาม พบว่าเจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหานั้นได้หายตัวออกไปจากวัดตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 67 แล้ว และไม่สามารถติดต่อได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นสถานที่เดียวกันตรงกับที่ปรากฏในภาพถ่ายที่เป็นหลักฐาน โดยทางคณะกรรมการวัดได้พิจารณาตัดสินใจร่วมกันให้เคลื่อนย้ายข้าวของเครื่องใช้และทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าอาวาสออกจากกุฏิไปไว้ที่อื่นก่อน ส่วนประเด็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าอาวาสนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนและพิจารณาจากคณะสงฆ์ที่ได้รับการมอบหมายจากเจ้าคณะตำบลและเจ้าคณะอำเภอว่ามีความผิดหรือไม่อย่างไร

ขณะที่จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวมีลักษณะพฤติกรรมชอบคลุกคลีใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็กผู้ชายมานานแล้ว โดยชอบชักชวนเด็กชายด้วยการว่าจ้างเป็นเงินครั้งละ 300-500 บาท ให้มาทำกิจกรรมตามลำพังกันในกุฏิ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นในเชิงสัมพันธ์ทางเพศแบบชายรักชาย โดยที่ผ่านมาเคยร้องเรียนหน่วยงานเกี่ยวข้องไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งครั้งนี้ที่หวังว่าจะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดจริงจัง

ด้านนายวัลลภ นามวงศ์พรหม รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้ต้องรอให้ทางเจ้าคณะตำบลที่เป็นต้นสังกัดโดยตรงของเจ้าอาวาส ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเสียก่อน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจากพฤติกรรมของเจ้าอาวาสตามภาพที่ปรากฏนั้น เป็นลักษณะของการกอดก่ายกับเด็กชายและเด็กหนุ่ม โดยยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศกันหรือไม่ และยังไม่มีผู้เสียหายที่ออกมาร้องว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ ดังนั้นจึงยังไม่ถือว่าผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง แต่หากการสอบสวนพบว่ามีหลักฐานชี้ชัดว่ากระทำผิดร้ายแรงกว่านี้ ต้องขึ้นอยู่กับทางเจ้าคณะตำบลและเจ้าคณะอำเภอว่าจะพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า