เชียงใหม่ – เทศบาลนครเชียงใหม่ยันเดินหน้าขอคืนพื้นที่สาธารณประโยชน์ย่านกาดหลวงเชียงใหม่ ย้ำให้พ่อค้าแม่ค้าย้ายพ้นสามหลี่ยมหน้าร้านทองโอ้วจินเฮง ระบุต้องทำการให้ย้ายออกตามคำสั่งศาลปกครอง เพราะอนุโลมมานานแล้ว
กรณีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายสินค้าในพื้นที่สาธารณประโยชน์ บริเวณสามเหลี่ยม ด้านหน้าร้านทองโอ้วจินเฮง กาดหลวง ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จำนวน 35 ราย รวมตัวกันร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, เทศบาลนครเชียงใหม่
หลังจากถูกทางเทศบาลนครเชียงใหม่ติดประกาศให้ออกจากพื้นที่ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 หากไม่ปฏิบัติตามคำประกาศของทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ทางเทศบาลฯ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายนั้น
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 ก.พ. 67) นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ มอบหมายให้นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ รองนายกเทศมนตรีฯ และนายเอกชัย ท้าวคำมา หัวหน้าฝ่ายปกครองงานเทศบาลนครเชียงใหม่ ชี้แจงสื่อมวลชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายภวฤทธิ์ รองนายกเทศมนตรีฯ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีการสอบถามมาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายของเทศบาลนครเชียงใหม่ และการประชุมร่วมกับกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าที่ขายของบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมหน้าร้านทองโอ้วจินเฮง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 อย่างเป็นทางการ โดยมีการชี้แจงข้อกฎหมาย และข้อสอบถามให้กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าทุกราย ได้รับทราบตามขั้นตอน
ซึ่งกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าก็ลงชื่อตกลงด้วยดี หลังจากนั้นทางเทศบาลฯ ได้มีหนังสือออกไปให้ทางกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ให้ย้ายออกภายใน 15 วัน ตามหนังสือที่แจ้งไป แต่ปรากฏว่า ระหว่างที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่รอการรื้อถอน และย้ายออกนั้น กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าทั้งหมดได้ไปยื่นหนังสือร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้อยู่ต่อไปอีก
ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ก็รอคำสั่งจากศาลปกครอง โดยไม่ได้ผลักดันให้กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าให้ออกภายใน 15 วัน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 ศาลปกครองได้มีคำสั่งออกมาไม่ทุเลาคำร้องของกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า ทางกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าได้มายื่นคำร้องขอต่อเทศบาลนครเชียงใหม่ ขอยืดเวลาออกไปอีก 1 เดือน คือวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 แล้วก็จะย้ายออกโดยมีหนังสือมายื่นต่อเทศบาลฯ จำนวน 29 ราย
ซึ่งกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าได้ยื่นถอนฟ้องต่อศาลปกครองไปแล้วจำนวน 28 ราย เหลือเพียง 1 รายที่ไม่ยอมถอนฟ้อนที่ศาลปกครอง ตนมองว่าในเมื่อกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าร้องขอมาเราก็อนุโลมให้ เมื่อถึงเวลารื้อถอนให้ออกจากพื้นที่ กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้ากลับไม่ยอมย้ายออกไปอีก จึงเป็นที่ไปที่มาของการร้องเรียนต่อสื่อมวลชน
โดยหน้าที่ของเทศบาลฯ จำเป็นต้องเอาพื้นที่สาธารณประโยชน์ตรงนี้คืนมา หากเทศบาลไม่ดำเนินการ ก็จะถูกกลุ่มประชาชนที่ร้องเรียนไปยังหน่วยงานเทศบาลฯ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่, ฝ่ายพัฒนา ของเทศบาลนครเชียงใหม่ ตำหนิ และดำเนินคดีได้ หากไม่ดำเนินการ ทางเทศบาล หน่วยงานเทศกิจฯ ก็จะถูกดำเนินคดีมาตรา 157 ฉะนั้นเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ต้องดำเนินการผลักดันออกตามหน้าที่
“ตามคำสั่งขอศาลปกครองเขาไม่ทุเลา แสดงว่าผิดจริง ทางเทศบาลก็ทำตามหน้าที่ โดยหลังวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าก็ยังไม่ย้ายออก ทางเทศบาลฯ หน่วยงานเทศกิจฯ จึงได้ไปติดป้ายประกาศให้ออก หากไม่ออกทางเทศบาลฯ ก็จะให้ฝ่ายนิติกรของเทศบาลไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติกรดำเนินการต่อไป หากฝ่ายนิติกรไม่ดำเนินการก็จะถูกดำเนินคดีมาตรา 157 โดยจะต้องมีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย”
นายภวฤทธิ์กล่าวต่อว่า พื้นที่บริเวณหน้าร้านทองโอ้วจินเฮงเป็นพื้นที่สาธารณะ เทศบาลฯ จะอนุญาตให้ใครเข้าไปครอบครอง ขายสินค้าและเก็บเงิน ซึ่งเป็นนโยบายของผู้บริหารแต่ละยุค ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าได้ขายสินค้ามากว่า 20 ปี แต่มาถึงยุคนายอัศนี บูรณปกรณ์ เป็นนายกเล็กก็มีนโยบายที่ชัดเจนออกมาว่าพื้นที่ดังกล่าวจะให้ใครไปครอบครองหรือจำหน่ายสินค้า และขายสินค้าต่ออีกไม่ได้
“การให้ขายชั่วคราวและเก็บเงินมันทำไม่ได้ ทางเทศบาลฯ ต้องดำเนินการ ซึ่งมันถึงเวลาที่จะต้องคืนพื้นที่ให้กับเทศบาลฯ แล้ว หากกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้ายังดื้อรั้นไม่ยอมย้ายออก ทางหน่วยงานเทศบาลฯ ก็จะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการจับกุมข้อหาบุกรุกฯ”
ทั้งนี้ พื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมหน้าร้านทองโอ้วจินเฮง ทางหน่วยงานเทศบาลฯ มีนโยบายจะดำเนินการคืนเป็นพื้นที่สาธารณะฯโดยมีการสร้างสวนหย่อมให้ชาวเชียงใหม่ และบุคคลทั่วไป แล้วเท่าที่เทศบาลฯ ได้สำรวจพบมีผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากทางเทศบาลฯ พบหลักฐานคลิป ผู้ค้าฯ ได้นำพื้นที่ดังกล่าวไปเช่าช่วงขายต่อและเก็บเป็นรายเดือนเดือนละ 3,000 บาท แต่ยังไม่สามารถนำคลิปมาเปิดเผยได้
ในตอนนี้ทางเทศบาลฯ มีนโยบายจะสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับชาวเชียงใหม่ มากที่สุุดเท่าที่จะทำได้ และจะมีโครงการผลักดันพื้นที่ที่ผิดกฎหมายให้กลับคืนอย่างถูกต้อง และเทศบาลฯ ก็จะไม่มีการไปเก็บเงินจากกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า หรือแบ่งขายล็อก อย่างเด็ดขาด ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักที่ชัดเจน
ล่าสุด ในช่วงเช้าวันนี้ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจฯออกไปแจ้งกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า ให้ย้ายออกไปจากบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมหน้าร้านทองโอ้วจินเฮง มิฉะนั้นทางเทศบาลนครเชียงใหม่จะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป โดยกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าก็ยังคงพยายามดื้อดึงเพื่อขอใช้พื้นที่ต่อไป
โดย ผู้จัดการออนไลน์