เมื่อวันที่ 11 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการล่องแพท่องเที่ยว ของผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในเขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ติดต่อขอความช่วยเหลือว่า แพท่องเที่ยวเกิดเหตุติดจอกแหนในเขื่อน ไม่สามารถเคลื่อนแพออกไปขึ้นฝั่งได้ โดยติดอยู่กลางน้ำในเขื่อนกิ่วลมมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงช่วงเที่ยงของวันนี้ยังออกไปไม่ได้ รวม 4 ลำ มีนักท่องเที่ยวประมาณ 200 คน จึงติดต่อขอความช่วยเหลือ ท่ามกลางความตระหนกตกใจของนักท่องเที่ยวที่อยู่บนแพ
ทางผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว หลังได้รับแจ้งก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือ จึงทราบว่าจุดที่แพติดอยู่มีจอกแหนและวัชพืชน้ำติดอยู่หนาแน่นมาก และไม่สามารถที่จะเคลื่อนออกไปได้ ดังนั้นจึงติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบและเข้ามาช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งหมด ในเบื้องต้นตัดเชือกที่กั้นแนวจอกแหน ในจุดที่แพติดคาอยู่ออก จึงทำให้แพ 2 ลำแรก สามารถเดินเครื่องยนต์และออกมาได้ จนส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย
ส่วนอีก 2 ลำที่ยังติดอยู่ ในบริเวณที่มีจอกแหนหนาแน่นมาก ก็รอการระบายของจอกแหนที่กำลังไหลออกไปตามกระแสน้ำจากแนวเชือกที่ขาดออก และล่าสุดสามารถเดินเครื่องยนต์ค่อยๆ ขับแหวกแนวจอกแหนออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นทางผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว ก็ระดมคนเข้ามารอและช่วยเหลือ อยู่ที่จุดบริการท่าแพสำเภาทอง ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งอยู่อีกฝั่งจากท้ายเขื่อนกิ่วลม โดยทราบว่า เป็นคณะนักท่องเที่ยวจาก จ.พะเยา และเชียงใหม่ เช่าขึ้นแพท่องเที่ยวตั้งแต่เมื่อวาน และมีกำหนดพักค้างแรมในแพหนึ่งคืน แต่ขณะช่วงขากลับ พบว่าจอกแหนล้อมเต็มพื้นที่เดินแพ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกมาได้ มีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ที่สำคัญอาหารที่เตรียมไปหมดแล้ว
โดยผู้ประกอบการจะนำเรือเล็กหรือเรือยาว เข้าไปช่วยส่งอาหาร หรือทยอยนำคนออกมา ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะจุดนั้นจอกแหนหนาแน่นมาก ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่จุดบริการสำเภาทองทั้งหมด 13 ราย พยายามที่จะช่วยเหลือทุกวิถีทาง เพื่อช่วยนักท่องเที่ยวออกมาให้ได้ก่อน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังใช้โดรนบินขึ้นไปสำรวจสภาพพื้นที่มุมสูงล่าสุด ก็พบแพท่องเที่ยว 2 ลำสุดท้าย ติดอยู่ท่ามกลางจอกแหนที่อัดแน่นเต็มผิวน้ำ มีนักท่องเที่ยวพยายามโบกมือขอความช่วยเหลือ
นางลำพึง อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากการสอบถามคนดูแลแพข้างใน ทราบว่าเมื่อคืนเกิดลมแรงมาก พัดเอาจอกแหนจากหลากหลายทิศมาล้อมแพ เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จนแพไม่สามารถขับต่อไปได้ และออกมาไม่ได้
ส่วนสาเหตุที่มีจอกแหนเพิ่มขึ้นมาอีก เนื่องจากล่าสุดขณะนี้ทางหน่วยงานชลประทานหยุดกำจัดและตักออก ทราบว่าไม่มีน้ำมันเติมเรือกำจัดจอกแหน และติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ทำให้ที่ผ่านมา ทำๆ หยุดๆ บางครั้งหยุดไปนานนับเดือน ทั้งนี้ ถึงแม้ที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้ประกอบการแพ จะนำเชือกมามัดกับทุ่นลอยน้ำ เพื่อไม่ให้จอกแหนกระจาย แต่บางครั้งเชือกขาด ทำให้จอกแหนถูกลมพัดกระจายกีดขวางเส้นทางล่องแพ กระทบต่อผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เวลา 13.00 น. นายชาญ จูดคง นายอำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง พร้อมด้วยนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านสา และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ และติดตามการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว พบว่าจุดที่แพติดห่างจากจุดบริการท่าแพสำเภาทอง ประมาณ 900 เมตร และเป็นการเกิดเหตุการณ์ติดอยู่จริง จึงรายงานไปยัง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ทราบเพราะะผู้ว่าฯ สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทั้งปภ. และชลประทาน รีบเข้าช่วยเหลือ เบื้องต้นทางอำเภอรายงานว่า หลังตัดแนวเชือกกั้นจอกแหนออก และเรือลากจูงจากผู้ประกอบการเรือแพในพื้นที่ เข้าช่วยเหลือ แพสามารถเข้าฝั่งได้ทุกลำ กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมดปลอดภัย
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้รับบาดเจ็บ หรือเกิดความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สินแต่อย่างใด นายอำเภอแจ้ห่มจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับเขื่อนกิ่วลม ขณะนี้กำลังประสบปัญหาจอกแหนและวัชพืชน้ำแพร่พันธุ์เร็ว ปกคลุมผิวน้ำในพื้นที่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนกิ่วลม ที่ผ่านมาถึงแม้ทางชลประทานจะเร่งกำจัดตักออก แต่ก็ไม่หมด ยังแพร่ลามอย่างรวดเร็ว จนมีเป็นจำนวนมาก
ที่มา มติชน
– Website : https://www.khaosod.co.th