แม่เหยื่อเนอร์สเซอรี่โหดกลางเมืองเชียงใหม่ ที่ถูกพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายร้อง’ปวีณา’เหตุซ้ำซากไม่คืบ พาเข้าพบผู้ว่าฯ เชียงใหม่-ผบก.ภ.เชียงใหม่-พมจ. ทวงถามถึงศาลากลาง
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี พร้อมแม่ของเหยื่อเนอร์สเซอรี่กลางเมืองเชียงใหม่ที่ถูกพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกาย เดินทางมาเข้าพบนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้เกี่ยวข้องเพื่อร้องทุกข์และทวงถามความคืบหน้าขอให้ติดตามเร่งรัดคดีและให้ความช่วยเหลือเด็กให้ถึงที่สุด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยนางสาวแวว (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ได้เข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่า ลูกชายวัย 2 ขวบของตนถูกพี่เลี้ยงเนอร์สเซอรี่แห่งหนึ่งใน ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ทำร้ายร่างกายด้วยการตบหัวอย่างแรงบ่อยครั้ง ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ นางสาวเอ (นามสมมติ) พี่เลี้ยงเด็กที่เพิ่งเข้าไปทำงานได้ 1 เดือน พยานสำคัญก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงพฤติกรรมทารุณในเนอร์สเซอรี่ด้วยว่า เธอได้รับเงินเดือนเพียง 7,500 บาท ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ดูแลเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป รวม 15 คน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพบว่า มีพี่เลี้ยงคนหนึ่งมักจะทำร้ายและกระทำรุนแรงต่อเด็กทุกคนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างต่อเนื่อง ทั้งกระชาก หยิก ตบหน้า ด่าทอ ไม่เคยมีเด็กคนไหนที่ไม่โดนทำแบบนี้ นางสาวเอจึงได้เก็บหลักฐานทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอเด็กชายวัย 2 ขวบ และเด็กหญิงอายุเพียง 9 เดือน ที่ถูกพี่เลี้ยงทำร้ายด้วยการมัดมือแนบลำตัวและเอาแพมเพิร์สคลุมหัวไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงตัดสินใจลาออกจากงานเพราะรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ก่อนแจ้งให้กับแม่ของเด็กทั้ง 2 คนทราบเรื่องและมีการเข้าร้องต่อหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่จนขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าหรือมาตรการใดชัดเจน แม่ของเด็กทั้งสองคนจึงได้ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิปวีณาฯ ดังกล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้รับเรื่องจากนางปวีณาไว้และได้แจ้งว่า ขณะนี้สถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าวได้ปิดทำการ และทางตำรวจได้ทำการสอบสวนและตั้งข้อหากับผู้กระทำผิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ประสานโรงพยาบาลพาเด็กทั้งหมด 15 คน ที่เคยอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กแห่งนี้เข้าประเมินสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจจากโรงพยาบาลนครพิงค์ หากพบความผิดปกติจะได้แจ้งไปยังพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้กระทำผิด ส่วนผู้ประกอบการและสถานเลี้ยงเด็กดังกล่าวจะได้มีการขึ้นบัญชีไว้ เพื่อไม่ให้กลับมาเปิดกิจการในลักษณะเดียวกันนี้อีก ซึ่งระหว่างเข้ารับเรื่องก็มีทางพลตำรวจตรีธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยผู้แทนของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ารับทราบรายละเอียดต่างๆด้วย โดยระหว่างรับเรื่องและข้อมูลผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และคณะต่างมีสีหน้าเสียและเป็นกังวลต่อภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้น
ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง ได้มีการแจ้งข้อหากับผู้กระทำผิดทั้งหมด 2 ข้อหา คือ กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ และข้อหาทารุณกรรมเด็ก ทั้งนี้การแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจะต้องรอผลการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง