น.ส.เอ(นามสมมุติ) อายุ38 ปีชาวอำเภอเกาะคา จ.ลำปาง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุวิทย์ ก้อนทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง หลังถูกชายที่เพิ่งพูดคุยกันทางเฟชบุ๊กได้ไม่นานหลอกให้ไปหา ก่อนจะถูกขังไม่ยอมให้ไปไหนไปแถมทำร้ายร่างกายทำลายทรัพย์สินไม่ให้ติดต่อทางบ้านนานร่วม 3 วัน ก่อนอาศัยจะหวะที่ฝ่ายชายหลับ จึงแอบหนีออกมาขอความช่วยเหลือ
หลังเข้าให้การกับตำรวจเมื่อ 8 พ.ย.66 นานร่วม 4 ชั่วโมง สาวผู้เสียหายรายดังกล่าวได้นำผู้สื่อข่าวไปดูสภาพรถเก๋งนิสสัน ซึ่งถูกทุบกระจกหน้าจนแตก และรอยเท้าของฝ่ายชายที่กระโดดถีบประตูรถ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ-กุญแจรถยนต์ที่แตกเสียหาย
พร้อมเปิดเผยว่าตนพึ่งรู้จักฝ่ายชายทางเฟชบุ๊กและแอปฯหาคู่ได้ไม่นาน ต่อมาได้พูดคุยกันและนัดเจอกันโดยชวนกันไปเที่ยวที่งานวัดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองลำปาง เขาบอกให้ไปรับเนื่องจากเขาเอารถไปทำเครื่องเสียง แล้วก็ได้ไปเที่ยวงานวัดด้วยกันก่อนไปส่งเขาที่บ้าน
เช้าอีกวันตนจะกลับ เขาไม่ยอมให้กลับ จนกระทั่งตอนเย็นตนยืนยันจะกลับบ้าน เขาก็โมโหเอาท่อนเหล็กมาทุบกระจกหน้ารถแถมบีบคอตนอีก ต่อมาได้พยามแอบโทรหาตำรวจแต่เขาเห็นเลยจับโทรศัพท์โยนทิ้งจนแตกออกเป็นชิ้น แถมยังขู่ว่าที่บ้านมีอาวุธปืนหากคิดหนีก็จะฆ่า ทำให้จำต้องทนอยู่ต่อเพราะหวาดกลัว
จนกระทั่งวันต่อมา เขาบอกว่าจะซ่อมรถให้แล้วชวนขับรถไปในเมือง ตนก็จำใจไป โดยขู่ว่าหากลงจากรถหรือพยามหนีจะขับรถชนเสาไฟฟ้าให้ตายทั้งคู่แถมเขายังให้พาไปจะซื้อตั๋วรถไปตาก แล้วบอกว่า..จะพาหนี
“ตอนนั้นตนกลัวมาก คืนนั้นเลยแกล้งหลับ จนประมาณห้าทุ่มกว่าอาศัยที่ช่วงฝ่ายชายหลับสนิท ถอดรองเท้าหนีออกมาก่อนที่จะขับรถหนี แต่เนื่องจากน้ำมันรถเหลือน้อยแถมเหลือเงินติดตัวแค่ 40 บาท เมื่อเจอปั้มน้ำมันหยอดเหรีญจึงเอาไปเติมน้ำมันก่อนขับรถไปจอดไว้บ้านเพื่อน แล้วขอยืมรถจยย.เพื่อนมาหาแม่ที่บ้านและขอให้แจ้งตำรวจ”
ทั้งนี้สาวรายนี้ ยังกล่าวทั้งน้ำตาว่าช่วงที่อยู่บ้านฝ่ายชายเขาไม่ให้ออกจากบ้านไปเจอใครเลย เคยขอความช่วยเหลือจากญาติของเขา ญาติเขาก็บอกว่าไม่กล้า เพราะผู้ชายคนนี้ชอบอาละวาดหากหนีได้ให้หนีไปและยังให้เงินค่าน้ำมันรถเพื่อหลบหนี แต่สุดท้ายฝ่ายชายทราบเขาก็มาเอาเงินไปอีกและให้เหลือติดตัวแค่ 40 บาท ตนร้องไห้ทุกคืน อยากเดินหนีกลับไปบ้านเขาก็ขู่ว่าจะฆ่า ช่วงที่เขาโมโหตนทั้งร้องไห้ขอชีวิตแต่เขาไม่ยอมปล่อย ตอนนี้ยอมรับว่าผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก
ด้านนายบี(นามสมมุติ)อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียหาย เปิดเผยว่าหลังจากที่ติดต่อหลานได้ทางครอบครัวก็พยามออกตามหาและไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง จนกระทั่งหลานยืมรถจยย.ของเพื่อน และร้องห่มร้องไห้กลับบ้าน-ให้พามาแจ้งความเนื่องจากถูกกระทำดังกล่าว ซึ่งขณะนี้จนท.ยังไม่ได้จับตัวผู้ก่อเหตุมา จึงอยากให้จนท.นำตัวชายคนดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเอื้อม ได้เดินทางไปที่บ้านชายคนดังกล่าวแล้ว แต่ไม่พบตัวและจะออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
โดย: ผู้จัดการออนไลน์