วันนี้ (31 ต.ค.66) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริติแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.เชียงราย นางกาหลง จบศรี อายุ 48 ปี หรือครูกาหลง อดีตครูประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ปัจจุบันถูกย้ายไปสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งใหม่เขต อ.ภูซาง จ.พะเยา ได้เดินทางเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เชียงราย เพื่อขอรับทราบข้อมูลความคืบหน้า การตรวจสอบทุจริตการใช้เงินค่าอาหารกลางวันนักเรียนและอื่นๆ ในโรงเรียนที่ตนเคยสังกัดพื้นที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ที่เคยยื่นร้องเรียนตั้งแต่ปี 61 ที่ผ่านมา
ครูกาหลง กล่าวว่าหลังจากที่ตนยื่นร้องเรียนปรากฎว่าทาง ป.ป.ช.เชียงราย ได้ตีตกเรื่องนี้ไป โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าไม่เคยเห็นเอกสารที่สำคัญจากตนเลย ซึ่งตนยืนยันว่าได้ส่งหลักฐานเป็นเอกสารสำคัญประกอบการร้องเรียนมาให้โดยครบถ้วนแล้ว ซึ่งเป็นเอกสารบัญชีการเงินเกี่ยวกับค่าอาหารกลางวันที่มีลายมือชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้นตนจึงอุทธรณ์ และนำหลักฐานมามอบให้เจ้าหน้าที่เพิ่มเติม พร้อมขอใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารในการขอดูข้อมูลเดิมของ ป.ป.ช. ที่ใช้เป็นเหตุผลตีตกเรื่องร้องเรียนด้วย
นอกจากนี้ตนยังมาติดตามเรื่องที่สืบเนื่องกัน คือ กรณีที่เคยร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.กลางเมื่อปี 2562 ให้ตรวจสอบผู้อำนวยการ สพป.เชียงราย เขต 4 เพราะสงสัยว่าได้ละเวันการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากหลังจากที่ตนได้ร้องเรียนเรื่องการใช้งบประมาณอาหารกลางวันเด็ก ปรากฎว่าทาง สพป.เชียงราย เขต 4 กลับดำเนินการอย่างล่าช้ากระทั่งจะย่างเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว
ทั้งนี้ระหว่างการร้องเรียนยังทราบว่าได้มีคนไปบังคับให้ผู้ที่เคยร้องเรียนรายอื่นๆ ถอนเรื่องจนเหลือตนเพียงคนเดียว รวมทั้งไปปล่อยข่าวตามหน่วยงานองค์กรต่างๆ ว่าตนมีอาการผิดปกติ มีการข่มขู่ตนจนต้องไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน มีการงดขั้นเงินเดือน ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ตัดเงินเดือนคืนคลังกว่า 17,000 บาท เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากครูกาหลงได้นำหลักฐานต่างๆ ไปยื่นเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ได้สอบถามและตรวจสอบหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน
ทั้งนี้เรื่องการใช้เงินค่าอาหารกลางวันของโรงเรียนที่ครูกาหลงร้องเรียนเป็นการใช้งบประมาณปี 2558-2560 คำร้องระบุว่ามีนำเงินค่าอาหารกลางวันไปจ่ายผิดประเภทโดยมีการเบิกเงินเต็ม แต่กลับมีการหักเงินส่วนหนึ่งไปสำรองเป็นจ่ายด้านอื่นๆ เช่น ค่ายานพาหนะเด็ก ค่าไฟฟ้า ฯลฯ ทั้งๆ ที่บางด้านได้รับงบประมาณจากเขตพื้นที่การศึกษายู่แล้ว นอกจากนี้มีเรื่องการจัดซื้อชุดพละให้นักเรียนแต่เด็กได้แค่เสื้อส่วนกางเกงต้องมีการซื้อเอง ฯลฯ
ซึ่งหลังจากครูกาหลงย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นแล้วทำให้หลายฝ่ายคิดว่าเรื่องจะเงียบลงกระทั่งมีการเข้าไปพบ ป.ป.ช.ในวันนี้อีกครั้ง