ชวนสังเกตก่อนทาน หมึกบลูริง สัตว์ทะเลมีพิษร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ หมึกชนิดนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับหมึกอิคคิว จนทำให้การทานหมึกตามร้านอาหารต่างๆ อาจต้องคอยสังเกต และระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น
หมึกบลูริง หมึกที่กำลังกลับมาเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากปี 2563 ที่เคยมีคนนำมาเสียบไม้ย่างขายจนเป็นกระแสมาแล้ว
ล่าสุดในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ได้มีข่าวการพบเจอหมึกชนิดนี้อีกครั้ง ในร้านอาหารปิ้งย่าง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลอย่างมากมาย โดยหมึกบลูริงนี้เป็นหมึกที่มีพิษร้ายแรง และสามารถสร้างความอันตรายได้ถึงชีวิตของผู้รับประทาน โดยหมึกบลูริงมีหน้าตาคล้ายคลึงกับหมึกอิคคิว จึงทำให้หมึกชนิดนี้ติดมากับหมึกสายได้ ผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานหมึกต้องเฝ้าระวัง และสังเกตเพิ่มมากขึ้น
หมึกบลูริง หรือหมึกสายวงน้ำเงิน อยู่ในสายพันธุ์หมึกยักษ์ ที่มีลักษณะเล็กกว่าหมึกสาย ความยาวไม่เกิน 20 ซม. และมีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก สามารถพบได้ทั่วทะเลไทย ทั้งอันดามันและอ่าวไทย ในประเทศไทยมีทั้งหมด 4 ชนิดด้วยกัน ส่วนใหญ่อยู่ตามพื้นท้องทะเล และติดมากับเรือประมงที่ใช้อวนลาก
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น และให้ข้อมูลจากโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ที่ได้สอบถามลงในกลุ่ม “นี่ตัวอะไร” และกลุ่ม “siamensis.org” เพื่อสอบถามว่า หมึกในภาพใช่ “หมึกบลูริง” หนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลกหรือไม่
ศ.ดร.เจษฎา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมของหมึกชนิดนี้ว่า “blue-ringed octopus หมึกสายวงน้ำเงิน ที่มีพิษร้ายแรงครับ ห้ามนำมาบริโภคเด็ดขาด แม้ว่าจะนำไปประกอบอาหารผ่านความร้อนแล้วก็ตาม เพราะสารพิษของมันทนความร้อนสูงได้” อ่านข่าว
วิธีสังเกตหมึกบลูริง (หมึกสายวงน้ำเงิน)
หมึกบลูริง หรือหมึกสายวงน้ำเงิน จะมีตัวเล็กกว่าหมึกอิคคิวธรรมดาทั่วไป ผิวหมึกออกลายคล้ำ จุดสังเกตหลัก คือ ลายจุดวงแหวนทั่วตัวและหนวดของหมึกบลูริงนั้น จะมีเป็นจุดดำ หรือจุดน้ำเงิน ซึ่งต่างจากหมึกอิคคิว ที่จะมีวงแหวน หรือจุดตามตัวเพียงแค่ 2-3 จุดเท่านั้น
พิษของหมึกบลูริง (หมึกสายวงน้ำเงิน)
พิษของหมึกบลูริง หรือหมึกสายวงน้ำเงินนี้ มีลักษณะเช่นเดียวกันกับปลาปักเป้า คือ เตโตรโดท็อกซิน (tetrodotoxin) มีผลต่อระบบประสาทโดยตรง ส่งผลให้เป็นอัมพาต ระบบหายใจล้มเหลว จนเสียชีวิตได้, พิษของปลาหมึกชนิดนี้จะไม่หายไป แม้จะมีการผ่านความร้อนแล้วก็ตาม เพราะพิษนี้สามารถทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส ทำให้มนุษย์เราหากรับพิษไปเพียง 1 มิลลิกรัม ก็เป็นอันตรายอย่างมาก จนถึงขั้นเสียชีวิต เพราะความรุนแรงของพิษนี้เท่ากับไซยาไนด์ถึง 1,200 เท่า และมากกว่าพิษจากงูถึง 20 เท่า
ปัจจุบันยังไม่มียาแก้พิษ วิธีรักษา คือ การใช้เครื่องช่วยหายใจ และรักษาตามอาการเท่านั้น หากพ้น 24 ชั่วโมงได้ อาการจะดีขึ้นตามลำดับ
ภาพ : istock
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รู้จัก ‘หมึกบลูริง’ พิษแรงถึงตาย พร้อมวิธีสังเกตก่อนกินปลาหมึก
– Website : www.thairath.co.th
– LINE Official : Thairath