รายงานข่าวระบุว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้รายงาน ราคาน้ำมันเฉลี่ยอาเซียน ประจำวันที่ 1 มกราคม 2567 แบ่งเป็น ราคาน้ำมันเบนซิน และ ราคาน้ำมันดีเซล
ประเทศที่มีราคาน้ำมันเบนซินสูงสุดในอาเซียนประกอบด้วย
- สิงคโปร์ ราคา 73.50 บาทต่อลิตร
- ลาว ราคา 46.30 บาทต่อลิตร
- เมียนมา ราคา 44.79 บาทต่อลิตร
- กัมพูชา ราคา 44.27 บาทต่อลิตร
- ไทย ราคา 35.25 บาทต่อลิตร
- ฟิลิปปินส์ ราคา 35.08 บาทต่อลิตร
- อินโดนีเซีย ราคา 31.15 บาทต่อลิตร
- เวียดนาม ราคา 31.11 บาทต่อลิตร
- มาเลเซีย ราคา 15.20 บาทต่อลิตร
- บรูไน ราคา 13.76 บาทต่อลิตร
ประเทศที่มีราคาน้ำมันดีเซลสูงสุดในอาเซียนประกอบด้วย
-
- สิงคโปร์ ราคา 68.57 บาทต่อลิตร
- กัมพูชา ราคา 41.77 บาทต่อลิตร
- เมียนมา ราคา 40.77 บาทต่อลิตร
- อินโดนีเซีย ราคา 36.36 บาทต่อลิตร
- ฟิลิปปินส์ ราคา 32.81 บาทต่อลิตร
- ลาว ราคา 32.61 บาทต่อลิตร
- ไทย ราคา 29.94 บาทต่อลิตร
- เวียดนาม ราคา 27.79 บาทต่อลิตร
- มาเลเซีย ราคา 15.95 บาทต่อลิตร
- บรูไน ราคา 8.05 บาทต่อลิตร
ราคาขายน้ำมัน ของแต่ละประเทศที่ต่างกัน มีปัจจัยทางด้านราคา ดังนี้
- แต่ละประเทศมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน
- ในหลายประเทศเพื่อนบ้านยังมีการอุดหนุนราคากันอยู่
- ประเทศไทยสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ให้การอุดหนุนราคาโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) จึงทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ถูกกว่าเบนซิน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมัน ณ วันที่ 1 มกราคม 2567 อัตราแลกเปลี่ยน (อัตรากลาง) ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ ประเทศไทย อ้างอิงราคาจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเป็น ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95E10 ซึ่งมีสัดส่วนการใช้มากที่สุด
สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันจากกรมธุรกิจพลังงาน พบว่าการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเฉลี่ยเดือนม.ค. – พ.ย. 2566 เพิ่มขึ้น 3.7% มียอดใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 31.54 ล้านลิตร/วัน โดยการใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.93 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.89 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี85 และเบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 6.78 ล้านลิตร/วัน 0.16 ล้านลิตร/วัน และ 0.46 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ
ทั้งนี้ การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค. 2566 ที่ 31.8% และ 3.2% ตามลำดับ จากนโยบายปรับลดราคาน้ำมันเบนซินลงทุกประเภทเป็นระยะเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2566 – 31 ม.ค. 2567 เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน โดยแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาท/ลิตร เบนซินและแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 1 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ อี20 และแก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลง 80 สตางค์/ลิตร จากการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันกลุ่มเบนซิน และการใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ส่วนน้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนม.ค. – พ.ย. 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 68.83 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.2% โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 และน้ำมันดีเซลพื้นฐาน ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 0.80 ล้านลิตร/วัน 0.15 ล้านลิตร/วัน และ 3.76 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.9% เฉลี่ยอยู่ที่ 64.12 ล้านลิตร/วัน แต่เมื่อพิจารณาจากช่วงเดือนที่ผ่านมาปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซล โดยใช้มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2.50 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเข้าไปชดเชยเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 2566 – 31 ธ.ค. 2566 และเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 – 31 มี.ค. 2567