เปิดกรุพิพิธภัณฑ์ฯลุ่มน้ำโขง “ม.แม่ฟ้าหลวง”เก็บรวม-ปริวรรตปั๊บสา ตำรายานับร้อยรอวิจัยต่อยอด

เชียงราย – พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มน้ำโขง ม.แม่ฟ้าหลวง เปิดกรุใบลาน-ปั๊บสา หลังลงพื้นที่สำรวจ-รวบรวม พบจารล้านนากำเมืองบันทึกตำรายาโบราณนับร้อยๆตำรับ ก่อนเดินหน้าปริวรรตเป็นภาษา-ภาพ สร้างคลังความรู้วิจัยต่อยอดใช้ร่วมการแพทย์ยุคใหม่

พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มแม่น้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จ.เชียงราย ได้เก็บรวบรวมใบลาน กระดาษสาหรือปั๊บสาเอาไว้ไม่น้อยกว่า 100 รายการ ส่วนใหญ่จารเป็นอักษรล้านนาหรือกำเมือง ระบุถึงตำรายารักษาโรคต่างๆ ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณมีอายุตั้งแต่ประมาณ 80-100 ปี

ซึ่งขณะนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ปริวรรตหรือแปลเป็นเอกสารให้คนทั่วไปได้อ่านเข้าใจง่าย รวมทั้งบันทึกภาพเอาไว้เพื่อศึกษา-วิจัยต่อยอดในอนาคตด้วย

อาจารย์ชูชาติ ใจแก้ว นักวิชาการพิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มแม่น้ำโขง มฟล.ผู้ถ่ายอักษรจากภาษาโบราณมาเป็นภาษาไทยยุคปัจจุบันหรือ “ปริวรรต” และจัดทำเป็นข้อความประกอบภาพ เปิดเผยว่ามีตำรายาโบราณต่างๆ ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณหลงเหลืออยู่ตามท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก เมื่อนำมาปริวรรตแล้วพบว่าทรงคุณค่าและควรแก่การอนุรักษ์ไว้

โดยข้อความบางตอน เช่น เมื่อเข้าหัวใจมีอาการจุกเสียดขึ้นหน้าอก ให้นำใบผักกุ่ม ใบผีเสื้อ 7 ใบ ใบหนาด 7 ใบ คางแดง หอยลม เอาผ้าดำมาห่อ รมไฟให้สุก แล้วเอามาตำเป็นผงไว้ใส่หม้อนุ่ง น้ำอุ่น กินและทาทำให้หายขาด หรือบางใบลานเป็นข้อแนะนำการรับประทานอาหารในแต่ละวัยเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี เป็นต้น

อาจารย์ชูชาติ กล่าวว่าก่อนหน้านี้กรมการแพทย์แผนไทยได้ดำเนินโครงการสำรวจตำราโบราณทั่วประเทศ สำหรับ จ.เชียงราย มีตนเป็นหัวหน้าโครงการและได้สำรวจพบว่ามีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากได้จัดส่งข้อมูลให้กรมการแพทย์แผนไทยแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ได้ทำการศึกษาต่อพบว่าข้อความในตำราโบราณเป็นองค์ความรู้เฉพาะกลุ่มคือแพทย์พื้นบ้านหรือหมอเมืองรวมทั้งมีเคล็ดลับแฝงอยู่มากมาย จึงได้ร่วมกับสำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ มฟล.ทำการวิจัยเพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในยุคปัจจุบันได้ต่อไป

อาจารย์ชูชาติ กล่าวจากการที่พิพิธภัณฑ์ลงพิ้นที่สำรวจในปี 2560 ตามวัดต่างๆ ทั้ง 18 อำเภอๆ ละ 6-7 วัด ได้พบตำราต่างๆ โดยบางวัดพบเพียง 1-2 รายการ บางวัดพบกว่า 10 รายการ ที่พบมากสุดคือ วัดสันกอง ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด เพราะพระภิกษุท่านมีความเข้าใจจึงได้เก็บรักษาเอาไว้อย่างดี

ทางพิพิธภัณฑ์จึงได้ถ่ายสำเนาเอาไว้และทำการปริวรรตดังกล่าว จากนั้นก็จะถวายความรู้เรื่องการดูแลรักษาใบลานโบราณให้กับทางวัดเพื่อให้มีความคงทน เช่น ใบลานจะมีแผ่นไม้ยาวเป็นหน้าปกหลังเพื่อไม่ให้งอเข้าหากันและต้องมีการเปิดออกเป็นบางเวลาเพื่อไม่ให้ใบลานติดกันเพราะถ้าติดกันแล้วจะทำให้ชำรุดเสียหายได้ เป็นต้น กระนั้นก็พบอุปสรรคเรื่องเอกสารไม่สมบูรณ์หรือ อักษรเลือนหางจึงทำให้ใช้เวลาในการปริวรรตอยู่นาน.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า