วันนี้ (18 ต.ค. 66) ที่ห้องปฏิบัติการ POC ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานแถลงมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการปล่อยโคมลอยในช่วงประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2566 โดยมีนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลง โดยปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดวันและเวลาปล่อยโคม รวมถึงลักษณะของโคม และพื้นที่ปล่อยโคมอย่างชัดเจน โดยสามาถทำการปล่อยโคมได้เพียง 2 วันเท่านั้น คือวันที่ 27 และ 28 พฤศจิกายน 2566 โดยในวันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันลอยกระทงเล็ก จะอนุญาตให้ปล่อยโคมควันหรือว่าวฮมได้เฉพาะเวลา 10.00-12.00 น. ส่วนโคมลอยและโคมไฟ อนุญาตให้ปล่อยได้เฉพาะเวลา 19.00-01.00 น. ส่วนในวันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแห่ขบวนกระทงใหญ่ กำหนดให้ปล่อยโคมลอยและโคมไฟได้เฉพาะเวลา 19.00-01.00 น. แต่ไม่อนุญาตให้ปล่อยโคมควันหรือว่าวฮม โดยเน้นย้ำว่าต้องปล่อยในพื้นที่ที่มีการขออนุญาตแล้วเท่านั้น
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดพื้นที่ห้ามจุดและปล่อยโคมโดยเด็ดขาดใน 6 อำเภอ 39 ตำบล ประกอบด้วย อำเภอเมือง และอำเภอหางดง ทุกตำบล, อำเภอสารภี ในพื้นที่ตำบลขัวมุง ตำบลดอนแก้ว ตำบลสันทราย ตำบลท่าวังตาล และตำบลหนองผึ้ง, อำเภอสันทราย พื้นที่ตำบลหนองหาร, อำเภอแม่ริม พื้นที่ตำบลดอนแก้ว ตำบลเหมืองแก้ว ตำบลริมใต้ ตำบลแม่สา ตำบลริมเหนือ และอำเภอสันป่าตอง พื้นที่ตำบลทุ่งเสี้ยว ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุมชนและอยู่ในรัศมีของเครื่องบิน
สำหรับอำเภอและตำบลอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือพื้นที่ห้ามเด็ดขาด หากสถานที่ใดจะจัดให้มีการจุดและปล่อยโคมลอย จะต้องยื่นอนุญาตต่อนายอำเภอก่อนไม่น้อยกว่า 30 วัน หรือก่อนวันที่ 28 ตุลาคม 2566 โดยจะต้องทำสัญลักษณ์หรือสี เพื่อให้สะดวกในการติดตามหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น พร้อมทั้งทำบันทึกข้อตกลงแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหาย และเตรียมแผนรักษาความปลอดภัยรองรับ โดยขณะนี้มีอำเภอที่ขออนุญาตปล่อยโคมแล้ว 8 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแม่แตง สันทราย แม่ออน ดอยหล่อ ดอยสะเก็ด แม่ริม สันป่าตอง และสันกำแพง และมีจำนวนโคมลอยที่ขออนุญาตปล่อยแล้ว รวมทั้งสิ้น 40,100 ลูก
นอกจากนี้ โคมลอยที่จะปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าได้นั้นจะต้องเป็นโคมลอยที่ถูกต้องตามมาตรฐาน มผช.808/2552 คือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ของกระทรวงอุตสาหกรรม คือ ต้องมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 90 เซนติเมตร สูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ใช้กระดาษว่าวชนิดบาง มีปริมาณเชื้อเพลิงไม่เกิน 55 กรัม ใช้เวลาในการเผาไหม้ไม่เกิน 8 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมกับระยะเวลาที่โคมลอยอยู่ในอากาศ และส่วนที่เป็นเชื้อเพลิงต้องยึดติดกับเชือกทนไฟหรือลวดอ่อน พร้อมระบุชื่อผู้ผลิต สถานที่ผลิต และคำเตือนติดกับตัวโคมลอยด้วย ที่สำคัญคือ ห้ามผูกพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัดไปกับโคมในขณะปล่อยเด็ดขาด ทั้งนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนการจุดและปล่อยโคมลอยโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากปล่อยโคมทำให้เกิดเพลิงไหม้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์