ศาลฯ ไฟเขียว!หมายจับ “พ.ต.ท.”โรงพักเชียงใหม่ ต้องสงสัยพัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลัง ตร.บุกทลายฐาน

เชียงใหม่ – ศาลฯอนุมัติหมายจับ “พ.ต.ท.” นายตำรวจโรงพักเชียงใหม่ หลัง ตร.ภาค 5 บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งฐานบ้านเอื้ออาทร 3 จุด รวบผู้ต้องหาเปิด GSM Gateways หรือ ซิมบ็อกซ์ แปลงสัญญาณหลอกเหยื่อ

รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้อนุมัติหมายจับนายตำรวจยศ “พ.ต.ท.” รายหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสารวัตรโรงพักแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ เมื่อ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามที่สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรธรช้างเผือก เชียงใหม่ ได้ยื่นขอ

โดยระบุข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิหยุคมนาคม โดยไม่ได้รับ ใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต,ร่วมกับกับตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต,ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม ฯ”

เนื่องจากมีหลักฐานตามสมควรว่า” พ.ต.ท.”ดังกล่าว ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจําคุกอย่างสูงเกินสามปี , ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ก่อเหตุอันตรายประการอื่น จึงให้ดำเนินการจับตัวภายในอายุความ 10 ปี

ด้าน พ.ต.อ.วีร์กวิน เสริมศรีธนชัย ผกก.สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยสั้นๆว่า ยอมรับว่านายตำรวจคนดังกล่าวอยู่ในสังกัดจริง ขณะนี้ลาไปบวชที่ลำปาง ไม่รู้จะสึกเมื่อไหร่ ถ้าสึกแล้วจะนำตัวไปมอบตัวที่ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ส่วนรูปคดีนั้นตนไม่ทราบเพราะเป็นคดีของ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้มีรายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจาก พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 บุกทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3 จุดพร้อมกันที่โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ , โครงการบ้านเอื้ออาทรป่าตัน ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ และ โครงการบ้านเอื้ออาทรสันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ 

โดยที่ห้องพักบนชั้น 4 อาคาร 1 โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่พบเครื่อง GSM Gateways หรือ ซิมบ็อกซ์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับแปลงสัญญาณการโทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เนตให้เป็นเบอร์โทรศัพท์ภายในประเทศ จำนวน 4 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์จ่ายไฟ ซึ่งทั้งหมดยังเปิดใช้งานอยู่ ส่วนที่บ้านเอื้ออาทรอีก 2 จุดพบเครื่องซิมบ็อกซ์อีกห้องละ 4 เครื่อง รวมทั้งหมด 12 เครื่อง

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหารวม 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นลูกสาวของ พ.ต.ท.รายดังกล่าว และมีคู่รักชายอายุ 21 และ หญิง อายุ 25 ปี ที่เป็นคนเช่าห้องทั้ง 3 ห้อง สอบสวนเบื้องต้นทั้งสองสารภาพว่าเป็นผู้เช่าห้องพักทั้ง 3 จุด และ เป็นคนคอยเฝ้าดูแลอุปกรณ์ทั้งหมด ได้ค่าจ้างจุดละ 8,000 บาทต่อเดือน แต่อ้างว่าไม่ทราบว่าอุปกรณ์ทั้งหมดคืออะไร สาเหตุที่ทำเพราะรายได้ดี

พล.ต.ต.วีรชน ระบุว่า สืบสวนภาค 5 ใช้อุปกรณ์พิเศษแกะรอยคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้มาได้ระยะหนึ่ง ทราบว่ามีฐานอยู่ประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยจะโทรผ่านระบบอินเทอร์เนตส่งสัญญาณผ่านเครื่องซิมบ็อกซ์ที่ติดตั้งไว้เพื่อแปลงสัญญาณให้เป็นเบอร์โทรศัพท์ในประเทศใช้ในการหลอกลวง ให้เหยื่อเข้าใจว่าเป็นสายโทรจากหน่วยงานรัฐภายในประเทศ

โดยเครื่องซิมบ็อกซ์ 1 เครื่อง ใส่ได้ 32 ซิมการ์ด สามารถใช้หลอกลวงประชาชนได้ถึง 300,000 ครั้งต่อเดือน หากรวมกันเฉพาะ 12 เครื่องที่ยึดได้ในวันนี้จะพบว่ามีเบอร์หลอกลวงโทรศัพท์ผ่านเครื่องทั้งหมดนี้ไปแล้วกว่า 3.6 ล้านครั้ง

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า