เมื่อวานนี้ (5 ต.ค. 66) นายสุรพล เต็มสวัสดิ์ พร้อมชาวบ้าน พระสงฆ์ ในพื้นที่ อ.ภูกามยาว อ.ดอกคำใต้ และ อ.เมือง จ.พะเยา กว่า 300 คน ได้รวมตัวกันบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพะเยา ชูป้ายเขียนด้วยข้อความต่อต้าน คัดค้านไม่ให้มีการสร้างฟาร์มหมูในเขตพื้นที่ 3 อำเภอ หลังจากที่เคยร้องเรียนกันมาแล้วหลายครั้ง ยังมีปัญหาจะสร้างอีก
พร้อมยื่นหนังสือให้นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าฯ พะเยา และหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง ขอให้ทางจังหวัดระงับโครงการก่อสร้างฟาร์มหมูในพื้นที่ 2 รายอย่างเร่งด่วน คือ 1. กรณีบริษัทเอกชนจาก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารประกอบกิจการเลี้ยงสุกร หนังสือ แบบ 2.1 เลขที่ 4/2556 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 พื้นที่หมู่ 13 ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จังหวัดพะเยา ลงนามโดย นายณัฏฐภพ อินต๊ะ นายก อบต.ดงเจน
และ 2. บริษัทเอกชนจาก อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ฟาร์มหมู คสล.หนึ่งชั้น ใช้เป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงสุกร ตามแบบ อ.1 เลขที่ 025/2566 พื้นที่หมู่ 4 ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว ลงนามโดย นายประยงค์ บุญตา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแก้ว
เนื่องจากการออกใบอนุญาตให้มีการก่อสร้างฟาร์มหมูทั้ง 2 แห่ง เป็นการออกใบอนุญาตโดยมิชอบ ตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ กิจการเลี้ยงสุกร จะต้องมีการทำประชาคมกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยรอบด้าน แต่พื้นที่หมู่ 13 ต.ดงเจน มีการประชาคมชาวบ้านหมู่ที่ 13 เพียงหมู่บ้านเดียว จำนวน 87 คน ณ ศาลาอเนกประสงค์ บ้านกว้านสันติสุข เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขณะที่ตำบลดงเจนมีหมู่บ้านทั้งหมด 16 หมู่บ้าน
ส่วนพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแก้ว ได้ทำประชาคม 2 หมู่บ้าน คือ บ้านม่วงคำ หมู่ 1 และบ้านหนองลาว หมู่ 4 ทั้งที่ตำบลห้วยแก้วมีหมู่บ้านทั้งหมด 17 หมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านอีกจำนวนมากไม่ได้เข้าร่วมทำประชาคมด้วย รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง คือ ตำบลแม่อิง อำเภอภูกามยาว ตำบลบ้านต๋อม ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมืองพะเยา ตำบลป่าซาง ตำบลห้วยลาน อำเภอดอกคำใต้
ข้อเท็จจริง พื้นที่ก่อสร้างฟาร์มหมูทั้ง 2 แห่งดังกล่าวนั้น นอกจากเป็นแหล่งต้นน้ำแล้ว ยังอยู่ใกล้วัด/สำนักสงฆ์ สถาบันการศึกษาหลายแห่ง ทั้งยังใกล้ตลาดสด แหล่งท่องเที่ยว การประกอบกิจการเลี้ยงสุกรดังกล่าวจะสร้างผลกระทบต่อประชาชนรอบด้าน เช่น น้ำเน่าเสีย กลิ่นเหม็น แมลงวัน แหล่งเพาะเชื้อโรค ซึ่งเป็นผลกระทบด้านสุขภาพ และผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของประชาชน นักเรียน เยาวชน พระสงฆ์ ชาวจังหวัดพะเยา ซึ่งจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง องค์การบริหารส่วนตำบลดงเจน และ องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแก้ว ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของประชาชนชาวจังหวัดพะเยา ดังต่อไปนี้
หลังจากรับเอกสารร้องคัดค้านการสร้างฟาร์มหมู ทางนายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้รับปากว่าจะ เร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ทำให้กลุ่มพระสงฆ์ ชาวบ้านต่างพอใจแยกย้ายกันกลับ รอความคืบหน้า เพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวอีกครั้ง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์