“สถานการณ์ยังน่าวิตกอยู่ ทุกคนกลัว”
อุดมพร จำปาหอม แรงงานชาวไทยในเมืองมิฟตาฮิม (Mivtahim) ใกล้กับพรมแดนติดฉนวนกาซา ในอิสราเอล บอกกับบีบีซีไทยจากแหล่งหลบซ่อนกลางป่า ห่างจากฟาร์มที่เขาและคนไทยอีกจำนวนมากทำงานอยู่
คลิปวิดีโออีกคลิปหนึ่ง แสดงให้เห็นเหล่าแรงงานไทยที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเพื่อนแรงงานชาวไทยที่ถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสยิงบาดเจ็บ บริเวณต้นขาและบั้นท้าย ที่อุดมพร อธิบายว่า “รูกระสุนใหญ่เท่าฝาขวดน้ำ”
ย้อนไปเมื่อเวลาประมาณ 6.00 น. วันที่ 8 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น อุดมพร และเพื่อนร่วมงานอีกราว 30 ชีวิต กำลังทำงานอยู่ในฟาร์มทางการเกษตร ทันใดนั้น มีเสียงครืนและเสียงจรวดพุ่งแหวกอากาศดังก้อง ทำให้ทุกคนหยุดนิ่ง และมองว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่นานหลังจากนั้น กลุ่มมือปืนพร้อมอาวุธครบมือ ได้บุกเข้ามา “กราดยิง” ใกล้ที่พักคนงาน เขาจึงตัดสินใจหลบอยู่ในห้องนอนของตนเอง เพราะไม่สามารถวิ่งเข้าบังเกอร์ได้ทัน
“ผมได้ยินเสียงปืนตลอดเวลา เป็นระยะ ๆ” อุดมพร กล่าว พร้อมยอมรับว่า หากวิ่งหนีเข้าบังเกอร์ก็คงไม่ปลอดภัย เพราะบังเกอร์ที่นายจ้างเตรียมไว้ให้ เป็นเพียงท่อคอนกรีตขนาดใหญ่ ไม่มีประตูปิดมิดชิด หากมือปืนบุกเข้ามา “พวกเขาคงไม่รอด”
ตอนนี้ อุดมพร ระบุว่า เขาและแรงงานชาวไทยอีกจำนวนหนึ่ง กำลังหลบซ่อนอยู่ในที่พักคนงาน ที่ห่างออกมาจากฟาร์มพอสมควร และห่างจากแคมป์คนงานหลัก ต่อเนื่องมานานเกือบ 1 วันแล้ว และยังรอคอยความช่วยเหลืออยู่
“มีเพื่อนที่ทำงาน หาที่นอน ที่หลบภัย หาอาหารทำกันกิน ที่นอน บางคนยังไม่ปลอดภัย ออกไปไหนไม่ได้ครับ เลยทำได้แค่รออยู่ตรงนี้” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ผมถูกปืนจ่อหัว”
แรงงานไทยอีกคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนาม เราจึงขอให้นามสมมติว่า สมศักดิ์ บอกกับบีบีซีไทยว่า เขาทำงานอยู่ในฟาร์มเดียวกันกับอุดมพร และเขาอยู่ในเหตุการณ์ ที่เกือบถูกกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกัน
“กลุ่มฮามาสเข้ามาใช้ปืนจ่อยิงแรงงานไทย” เขาเล่า “ผมไปหลบอยู่ใต้รถบรรทุก แต่มือปืนก็ลากขาผมออกมาจากใต้ท้องรถ”
สมศักดิ์ เล่าต่อว่า เขาถูกปืนจี้ในระยะประชิด มือปืนได้ยิงปืนลงกับพื้นใกล้ตัว ทันใดนั้น รถบรรทุกทหารของกองทัพอิสราเอลผ่านเข้ามาใกล้พอดี ทำให้กลุ่มฮามาสเบนความสนใจไปทางอื่น เขาจึงอาศัยจังหวะนั้น วิ่งหนีเอาชีวิตรอด
กองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ ไอดีเอฟ ยืนยันว่า มีพลเรือนและทหารอิสราเอล ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวไปเป็นตัวประกันจริง แต่ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด
ด้านกลุ่มฮามาสได้เผยแพร่ภาพวิดีโอผ่านสังคมออนไลน์ เผยให้เห็นชาวอิสราเอล และชาวเอเชียหลายคนที่อ้างว่า พวกเขาจับกุมไว้เป็นตัวประกัน และพากลับเข้าไปในฉนวนกาซา
นับแต่วานนี้ (7 ต.ค.) สังคมออนไลน์ไทย เผยแพร่ภาพที่เชื่อว่าเป็นคนไทย ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน แต่สำหรับ วนิดา มาอาษา ใน จ.อุดรธานี ภรรยาของ ทันทีที่เห็นภาพหนึ่ง เธอรู้ทันทีว่านั่นคือ อนุชา อ่างแก้ว สามีของเธอ
“ใช่จริง ๆ” วนิดา บอกบีบีซีไทย พร้อมยืนกรานว่า สามีเธอไม่แต่งตัวในลักษณะนี้ และเธอไม่ได้ติดต่อกับเขามาตั้งแต่เวลากลางคืน วันที่ 6 ต.ค. และหลังเช้าวันที่ 7 ต.ค. ก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย
“เพื่อนเขาก็ไม่รู้เรื่อง บอกติดต่อไม่ได้… ปกติ ถ้าจะรบจะแจ้งล่วงหน้าและอพยพไปที่ไร่ส้ม จะมีที่ให้ลี้ภัย พวกบังเกอร์ แต่รอบนี้ ไม่รู้เกิดเหตุอะไรขึ้น” วนิดา กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ
อนุชา ทำงานในไร่อะโวคาโด ตามการสมัครไปทำงานอิสราเอลกับกรมแรงงานมาเกือบ 2 ปีแล้ว ปกติวันเสาร์จะเป็นวันหยุดที่เขาจะไปเที่ยวกับเพื่อนในตัวเมือง
ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ขวบ
กระทรวงแรงงานยืนยันคนไทยถูกลักพาตัว
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า จากรายงานเบื้องต้นพบว่า มีแรงงานไทยถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อคือ นายชาตรี ชาศรี อายุ 38 ปี เดินทางโดยกรมการจัดหางานจัดส่งไปทำงานเกษตร มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ จ.นครพนม และเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีแรงงานไทยอีก 2 คน ซึ่งเป็นสามีภรรยาถูกจับตัวไว้ ทราบชื่อคือ นายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 39 ปี และ น.ส.ศศิวรรณ พันธ์ฆ้อง อายุ 36 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.อุดรธานี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
แต่จากภาพที่กลุ่มฮามาสเปิดเผยออกมา และ วนิดา ยืนกรานว่าเป็นสามีของเธอ จึงเป็นไปได้ว่า มีคนไทยถูกจับเป็นตัวประกัน ไม่ต่ำกว่า 3 คนแล้ว
ข้อมูลจากกรมแรงงานระบุว่า ปัจจุบัน มีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอล ประมาณ 29,900 คน โดยเป็นแรงงานที่อยู่ใกล้ฉนวนกาซาประมาณ 5,000 คน
ด้านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่องบินเพื่อภารกิจอพยพคนไทยในอิสราเอล หากสถานการณ์จำเป็นและมีสัญญาณให้บินเข้าไปได้ โดยพรุ่งนี้ ( 8 ต.ค.) จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
“ผมขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว” เศรษฐา ระบุผ่านเอ็กซ์
“ผมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจที่เห็นรายงานเข้ามาว่ามีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน หรือมากกว่า ตอนนี้กำลังยืนยันข้อมูลจากทางการอิสราเอลอยู่ ทางกองทัพและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อม ผมต้องการให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยครับ”