ประชามติแก้ปัญหา!ชาวบ้านออกเสียงไม่ให้อยู่ต่อ ชี้“ผอ.โรงเรียนฯ เมืองลำปาง”เข้ากับครู-นร.-ผู้ปกครองไม่ได้

นายธนายุทธ คำภีระ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต1 เป็นประธานในการรับฟังความคิดเห็นและการลงประชามติของผู้มีส่วนได้เสีย ที่โรงเรียนบ้านกาดเมฆ ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง กรณีชาวบ้านทำหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมต่างๆของ ผอ.โรงเรียนบ้านกาดเมฆ ที่ไม่สามารถเข้ากับครู นักเรียน และชาวบ้านในพื้นที่ได้ จนเกิดความขัดแย้ง

ซึ่งเป็นที่มาของการลงประชามติครั้งนี้ว่าจะให้ ผอ.โรงเรียนบ้านกาดเมฆ คือ นายธนพงษ์ อมฤตวิสุทธ์ ทำหน้าที่ ผอ.โรงเรียนต่อไปหรือไม่ โดยมีชาวบ้านกาดเมฆ ม. 5 คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วม

ก่อนที่จะมีการลงประชามติ นิติกรฯสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 ได้อ่านข้อร้องเรียน และเปิดโอกาสให้ ผอ.โรงเรียน อธิบายข้อร้องเรียนเป็นข้อๆ เมื่ออธิบายเสร็จ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต1 ได้อธิบายถึงขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าผลของการลงประชามติจะเป็นอย่างงไรก็ตาม ซึ่งการลงประชามติในวันนี้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการนำไปประกอบกับการแสวงหาข้อเท็จจริงจากครู นักเรียนและชาวบ้านในพื้นที่ด้วย

จากนั้นจึงเริ่มให้ชาวบ้านที่เข้ามาร่วมประชุม รวม 54 คน รับเอกสารและลงคะแนนหย่อนในกล่องจนเสร็จ โดยเอกสารการลงคะแนนได้แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นคือ ประเด็นแรก เห็นชอบให้ ผอ.ทำหน้าที่ต่อไป ผลการนับคะแนน เห็นชอบ 7 คะแนน ไม่เห็นชอบ 47 คะแนน ประเด็นที่2 เห็นชอบว่าการบริหารงานของ ผอ.ทำดีอยู่แล้ว เห็นชอบ 6 คะแนน ไม่เห็นชอบ 47 คะแนน สรุปคือชาวบ้านไม่เห็นชอบให้ ผอ.ทำหน้าที่ ผอ.โรงเรียนบ้านกาดเมฆ อีกต่อไป

นายธนพงษ์ อมฤตวิสุทธ์ ผอ.โรงเรียนบ้านกาดเมฆ กล่าวภายหลังทราบผลการลงประชามติว่าชาวบ้านไม่ยอมรับให้ตัวเองทำหน้าที่ต่อ กำลังใจก็หายไปเหมือน เมื่อถามว่าอะไรที่คิดว่าเป็นสาเหตุที่ชาวบ้าน ครูไม่พอใจในการบริหาร ผอ.โรงเรียนบอกว่าขอตอบสั้นๆว่า การทำงานบางอย่างที่ทำตามระเบียบแต่อาจจะไม่ถูกใจคน

ทางด้านนายธนายุทธ คำภีระ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต1 เปิดเผยว่าตามมติที่ออกมาก็เห็นได้ว่าชาวบ้านไม่เห็นชอบให้ ผอ.ทำหน้าที่ต่อไปได้อีก ในส่วนของสำนักงานเขตฯก็จะนำผลการลงมติรายงานให้กับ ผอ.เขตฯได้รับทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ซึ่งผู้ที่มาลงมติในครั้งนี้มาด้วยความบริสุทธิ์ไม่ได้มีการชักจูง เคี่ยวเข็ญ ข่มขู่แต่อย่างใด เบื้องต้นจะได้พูดคุยกับ ผอ.โรงเรียนก่อน และจะหารือกับ ผอ.เขตถึงแนวทางแก้ปัญหาระหว่างที่จะต้องดำเนินการตามระเบียบ ซึ่งอาจจะย้ายให้เข้าทำงานที่เขตก่อนเพื่อลดความขัดแย้งและไม่ให้เกิดปัญหาการกระทบกระทั่งกับครู ชาวบ้าน ผู้ปกครอง นักเรียนในพื้นที่