เมื่อวานนี้ (23 ก.ย. 67) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่คืนวานนี้และตลอดทั้งวันนี้ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมในพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ โดยที่อำเภอแม่ริม น้ำป่าจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และดอยในเขตอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรในหลายตำบลของอำเภอแม่ริม โดยเบื้องต้นมีรายงานพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 6 ตำบล 9 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลแม่แรม ม.1, 2, 5, 6, ตำบลริมใต้ ม.6, ตำบลริมเหนือ ม.2, ตำบลขี้เหล็ก ม.7, ตำบลห้วยทราย ม.4 และตำบลโป่งแยง ม.2 ซึ่งทางอำเภอแม่ริม และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พร้อมให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
ทั้งนี้ พบด้วยว่าฝนที่ตกและน้ำไหลหลากดังกล่าวนี้ได้ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมขังสูงถนนโชตนา ช่วงบริเวณสามแยกแม่สา ในตัวอำเภอแม่ริมด้วย ทำให้รถราสัญจรไปมาด้วยความยากลำบากและเกิดการจราจรติดขัด ขณะเดียวกัน ในช่วงเย็นวันนี้เกิดเหตุระทึกและสร้างความแตกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อปรากฏว่าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านทรายมูล หมู่ 8 ตำบลริมใต้ ซึ่งสร้างอยู่ติดกับลำน้ำแม่ริม ที่จะไหลลงสู่แม่น้ำปิง ได้เกิดการทรุดตัวและพังทลายลงทั้งหลัง เนื่องจากระดับน้ำที่ขึ้นสูงและไหลเชี่ยวกรากจนกัดเซาะตลิ่งและฐานรากของบ้านหลังดังกล่าวจนพังลงและถูกกระแสน้ำพัดพาไปต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมาก ยังดีที่เจ้าของบ้านปลอดภัยและขนย้ายทรัพย์สินออกมาได้จำนวนหนึ่ง โดยนอกจากนี้พบว่ามีบ้านเรือนอีกหลายหลังที่มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน
ด้านศูนย์อุทกวิทยาที่ 1 เชียงใหม่ ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำปิงให้เตรียมรับมือน้ำล้นตลิ่ง โดยเก็บของขึ้นที่สูง โดยในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพบว่าประชาชนต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิงอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.พบว่า ณ จุดวัดระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ระดับน้ำอยู่ที่ 2.69 เมตร ซึ่งจุดวิกฤตอยู่ที่ 3.70 เมตร
ชลประทานเชียงใหม่ได้เร่งเปิดประตูระบายน้ำป่าแดด ผลักดันน้ำลงสู่ทางตอนล่างเพื่อบริหารจัดการไม่ให้ระดับน้ำในเขตตัวเมืองเชียงใหม่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมทั้งต้องเตรียมการรับมือมวลน้ำจากพื้นที่อำเภอเชียงดาวที่เกิดน้ำป่าไหลหลากลงแม่น้ำปิง ซึ่งใช้เวลา 6 ชั่วโมงในการเดินทางมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ จึงต้องมีการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำปิงอย่างเข้มข้นเป็นรายชั่วโมง