ถอดตำนาน “ก้านกล้วยรอบสระ” วิถีคนแม่โจ้ในอดีต กลางศึกอธิบดีกรมข้าวVSพี่ศรี น้องต่อยพี่เป็นต้องโดนฟาดรอบ “สระเกษตรสนาน”

เชียงใหม่ – เปิดตำนาน “ก้านกล้วยรอบสระ”..วิถีคนแม่โจ้ในอดีต เผยเป็นกฎที่เคยถือปฏิบัติ-ลงโทษรุ่นน้องทำผิดรุนแรงชกต่อยกัน-รุ่นน้องหาเรื่องรุ่นพี่ก่อน เป็นต้องโดนก้านกล้วยตีรอบ “สระเกษตรสนาน” เผยเคยมีคนโดนจนต้องทายาหม่องเป็นอาทิตย์มาแล้ว

และจากเพจ ม.แม่โจ้ (กำเนิดลูกแม่โจ้ รุ่นที่ 88)

และจากเพจ ม.แม่โจ้ (กำเนิดลูกแม่โจ้ รุ่นที่ 88)

หลังนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ออกมาเปิดเผยถึงปฏิบัติการล่อซื้อ-ดำเนินคดี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ม.แม่โจ้ เพื่อให้ยุติการร้องเรียนการทุจริตโครงการของกรมการข้าว บางช่วงบางตอนว่า..หากเป็นสมัยก่อนได้โดนก้านกล้วยรอบสระ และโกนหัวครึ่งซีกแน่..

ซึ่งคำว่า..ก้านกล้วยรอบสระ..นั้น หากเป็นศิษย์เก่าแม่โจ้จะรู้กันดีว่า นั่นคือหนึ่งในกิจกรรมรับน้อง หรือโซตัสของแม่โจ้ในอดีต แต่เรื่องราวนี้แพร่งพรายออกมาสู่สังคมภายนอกค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีคำสัญญาสาบานผูกมัดกันไว้ทุกรุ่น

อดีตนักศึกษาหรือศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ รุ่น 30 กว่าปีก่อนคนหนึ่งบอกว่าระบบโซตัสในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ตามที่อธิบดีกรมการข้าวระบุเคยมีอยู่จริงและมีหลากหลายกฎที่นักศึกษาตั้งกันขึ้นมาเอง จากนั้นทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องก็นำมาใช้ปฏิบัติร่วมกันเพื่อใช้ทำให้สังคมนักศึกษาอยู่กันอย่างปกติสุขและเคารพนับถือกัน

เรื่องราวโซตัสแม่โจ้ยังเคยมีการนำไปเขียนเป็นนิยายเรื่อง “ร้อยป่า” ที่บอกเล่าเรื่องราวการรับน้องของแม่โจ้ในอดีต มีถึงขั้นถีบลง “สระเกษตรสนาน” อีกด้วย

แต่กฎโซตัสเหล่านี้ได้ยกเลิกหมดแล้วในยุคที่โทรศัพท์มือถือสามารถถ่ายภาพได้ และยิ่งในยุคสื่อสาธารณะหรือโซเชียลมีเดีย ก็ไม่มีคนทำกันอีก เรื่องแบบนี้จึงหายไปตั้งแต่เมื่อประมาณ 10-15 ปีก่อน

ศิษย์เก่าแม่โจ้เมื่อ 30 กว่าปีก่อนกล่าวอีกว่า กฎโซตัสมีหลายข้อ แต่ข้อหนึ่งที่ทุกคนจะต้องจำใส่ใจไว้เป็นอย่างดีคือ หากเกิดกรณีรุ่นพี่และรุ่นน้องทะเลาะวิวาทถึงขั้นชกต่อยกัน ก็จะมีการสืบหาข้อเท็จจริงและหากใครทำผิดก็จะต้องให้วิ่งรอบสระน้ำที่เรียกกันว่า “สระเกษตรสนาน” ที่มีขนาดกว้างเท่าครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอลภายในมหาวิทยาลัย

เมื่อได้ตัวคนผิดแล้ว ก่อนจะให้วิ่งรอบสระ ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องก็จะพากันไปตัดก้านกล้วยและลิดใบออกเหลือแต่ก้านที่มีความยาวขนาดไม้ตำข้าว แล้วนำไปให้รุ่นพี่และเพื่อนของคนที่จะถูกลงโทษถือไปยืนเรียงอยู่ริมสระน้ำตามทางวิ่งของคนที่จะถูกลงโทษ ส่วนรุ่นน้องที่ไม่ได้ถูกลงโทษจะไม่ให้ตีแต่จะให้ไปนั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งเพื่อดูไว้เป็นตัวอย่าง

จากนั้นก็จะให้คนที่ถูกลงโทษวิ่งไปตามขอบสระ และเมื่อถึงจุดที่รุ่นพี่และเพื่อนรุ่นเดียวกันยืนอยู่ก็จะถูกก้านกล้วยตีจนเกิดเสียงดังไปตลอดทาง เรียกได้ว่าเป็นการลงโทษสำหรับเหตุการทะเลาะวิวาทถึงขั้นชกต่อยกันเป็นหลัก โดยเฉพาะต่อรุ่นน้องที่ไปหาเรื่องรุ่นพี่ก่อน ซึ่งก็ถือว่าได้ผลดีเพราะสามารถใช้ควบคุมคนจำนวนมากให้อยู่กันอย่างเป็นปกติได้

“สระน้ำกว้างประมาณครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอล ก่อนจะออกวิ่งก็จะมีการไปหาตัดต้นกล้วย ครั้งหนึ่งได้มามากกว่า 1 คันรถ เมื่อคนที่ถูกลงโทษออกวิ่งก็จะเสียงตีดังแป๊บๆๆๆ ไปตลอดทาง เพื่อนของพี่คนหนึ่งถูกตีจนต้องทายาหม่องไปตลอดสัปดาห์ ซึ่งในยุคของอธิบดีกรมการข้าวและคุณศรีสุวรรณถือว่าเป็นคนมีอายุแล้ว เคยผ่านกฎโซตัสนี้มาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามปัจจุบันได้ยกเลิกกันไปหมดแล้วตามยุคสมัย” ศิษย์เก่าแม่โจ้กล่าว

ภาพจาก MAEJO UNIVERSITY ARCHIVES จดหมายเหตุมหาวิทยาลัยแม่โจ้,และจากเพจน ม.แม่โจ้ (กำเนิดลูกแม่โจ้ รุ่นที่ 88)

ภาพจาก MAEJO UNIVERSITY ARCHIVES จดหมายเหตุมหาวิทยาลัยแม่โจ้,และจากเพจน ม.แม่โจ้ (กำเนิดลูกแม่โจ้ รุ่นที่ 88)

 

ภาพจากเพจ ม.แม่โจ้

ภาพจากเพจ ม.แม่โจ้

 

และจากเพจ ม.แม่โจ้ (กำเนิดลูกแม่โจ้ รุ่นที่ 88)
โดย ผู้จัดการออนไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า