ชาวบ้านอำเภอกัลยาณิวัฒนา นับ 100 คนรวมตัวหน้า สภ.กัลยาณิวัฒนา ชูป้ายขับไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กัลยาณิวัฒนา เนื่องจากไม่พอใจการปฏิบัติหน้าของเจ้าหน้าที่ เรียกร้องให้ย้าย รอง ผกก.สอบสวนฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีก 4 นาย รวม 5 นาย ย้ายออกจากพื้นที่ ภายใน 7 วัน ชาวบ้านระบุ พฤติกรรมตำรวจใช้วาจาที่ไม่สุภาพไม่ให้เกียรติศาสนสถาน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมซื้อของที่ร้านชาวบ้าน ตัดผมกับชาวบ้านแล้วไม่จ่ายเงินหลายครั้งอีกด้วย จนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน
ที่ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรกัลยาณิวัฒนา ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอกัลยาณิวัฒนา ประมาณ 100 คนรวมตัวชูป้ายประท้วงเรียกร้องให้ย้าย รอง ผกก.สอบสวนฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจ อีก 4 นาย ย้ายออกจากพื้นที่ เนื่องจากไม่พอใจการปฏิบัติหน้าของเจ้าหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 5 นาย ก่อนจะยื่นหนังสือให้กับพันตำรวจเอกธนัญชัย ศิริวรรณา ผู้กำกับการ สภ.กัลยาณิวัฒนา โดยระบุว่า รอง ผู้กำกับการคนดังกล่าว มีพฤติกรรมไม่ให้เกียรติประชาชชน เวลาที่ชาวบ้านไปติดต่อราชการมักจะใช้วาจาที่ไม่สุภาพ รอง ผู้กำกับคนดังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายครั้ง ไม่ให้เกียรติศาสนสถาน สูบบุหรี่ในโบสถ์คริสต์ ขณะไประชุมชาวบ้านโดยไม่สนใจเนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้านปลอดอบายมุข มีป้ายบอกชัดเจน เมื่อชาวบ้านว่ากล่าวตักเตือนกับพูดจาตะคอกใส่ชาวบ้าน สร้างความไม่สบายใจแก่ชาวบ้านและผู้นำศาสนาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมซื้อของที่ร้านชาวบ้าน ตัดผมกับชาวบ้านแล้วไม่จ่ายเงินหลายครั้งอีกด้วย จนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านแต่ไม่มีใครกล้ายุ่งเนื่องจากเกรงกลัว
ส่วน ร้อยตำรวจโท น. และพวกอีก 3 คนได้ข่มขู่ และทำร้ายนายบุญยืน ตะแก อายุ 60 ปี ครูสอนศาสนา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงหัวค่ำของวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายดักจับนายบุญยืนฯ ที่หน้าป่าช้าบ้านห้วยฮ้อม ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยานิวัฒนา ขณะที่นายบุญยืนกลับจากทำสวน จนรถมอเตอร์ไซค์ล้มบาดเจ็บ ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ล็อคคอสวมกุญแจมือและซ้อมได้รับบาดเจ็บ หลังตรวจค้นแล้วไม่พบยาเสพติด แต่ไม่รับผิดชอบโดยอ้างว่าปฏิบัติตามหน้าที่จนทำให้เกิดความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้หนักขึ้น
หลังจากที่ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือกับพันตำรวจเอกธนัญชัย ศิริวรรณา ผู้กำกับการ สภ.กัลยาณิวัฒนา ต่อมมาพันตำรวจเอกธนัญชัย ได้เชิญตัวแทนชาวบ้านไปพูดคุยเพื่อหาทางออกตามข้อร้องเรียน ก่อนจะได้มติว่าจะได้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านร้องเรียนมา และจะแจ้งผลการดำเนินการให้ชาวบ้านภายใน 7 วัน ก่อนที่ชาวบ้านจะแยกย้ายกันกลับ
ด้านนายโกวิท กิจรุ่งเรืองพัฒนา ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า ชาวบ้านในอำเภอกัลยาณิวัฒนา ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชนเผ่า บางคนไม่รู้กฎหมายเมื่อได้รับความเดือดร้อนไปขอแจ้งความกลับไม่ได้รับการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บ่อยครั้งทำให้เกิดความไม่พอใจในกลุ่มชาวบ้านตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลการพูดตุยกับผู้กำกับการ สภ.กัลยาณิวัฒนา ทราบว่าจะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและจะทราบผลภายใน 7 วัน หากผลออกมาไม่เป็นออกมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่นายชัย นามสมมุติ เจ้าของร้านตัดผมแห่งหนึ่ง กล่าวว่าก่อนหน้านี้ รอง ผกก .คนดังกล่าวได้ไปใช้บริการตัดผมซึ่งตนก็คิดราคาจากผู้ใหญ่ตัดหัวล่ะ 30 บาท ถูกลดราคาให้เพียง 20 บาท แต่ตำรวจนายดังกล่าวกลับไม่จ่ายเงินครั้งแรกอ้างว่าไม่ได้เอากระเป๋าเงินมา หลังจากนั้นมาตัดครั้งที่สองก็ยังไม่จ่ายเงิน และยังมีหน้ามาตัดครั้งที่ 3 กลับแกล้งเอาเงินแบ็งค์ 1 พันมาจ่ายให้อ้างว่าไม่มีแบ็งค์ปลีก ทั้งที่รู้ว่าตนไม่มีเงินทอน หลังจากนั้นไม่เห็นหน้านายตำรวจคนนี้อีกเลย ซึ่งเป็นการกลั่นแกล้งและย่ำยีตน ทำให้ได้รับความลำบากเนื่องจากตน หาเช้า กินค่ำ มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกเมียต้องจ่ายค่าเช่า ค่าไฟ
ส่วนนายโชค นามสมมุติ ชาวบ้านเปิดเผยว่า วันนี้มาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.กัลยาณิวัฒนา ทั้งตั้งด่านลอย เรียกรับผลประโยชน์กับผู้ประกอบการเป็นรายเดือน นอกจากนี้จากการพบว่าเจ้าหน้าที่จะจับกุมเฉพาะผู้เสพเท่านั้นส่วนผู้ค้ากลับปล่อยลอยนวลเหมือนรู้กัน ทำให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ส่วนช่วงกลางคืนชาวบ้านที่ออกหาปลา หาเขียด ตอนกลางคืนมักจะถูกเจ้าหน้าที่หาเรื่องจับกุมเป็นประจำ ทำให้เป็นที่เบื่อหน่ายของชาวบ้าน
ด้านพันตำรวจเอกธนัญชัย ศิริวรรณา ผู้กำกับการ สภ.กัลยาณิวัฒนา เปิดเผยว่าหลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนและพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้านแล้วหลังจากนี้จะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นและจะทราบผลภายใน 7 วัน ซึ่งยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย