ปฏิเสธไม่ได้ว่าดอยพุ่ยโค (ภาษาปกาเกอะญอ แปลว่า เขาหัวโล้น) เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน น้องใหม่ที่กำลังโด่งดังจากความสวยงามไม่แพ้ที่ใด
ซึ่งเขาหัวโล้นดอยพุ่ยโคไม่ได้โล้นเพราะการตัดไม้ทำลายป่า แต่เป็นลักษณะและธรรมชาติบนความสูงประมาณ 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศหนาวเย็น ลมแรง มีพืชที่เจริญเติบโตได้ไม่มาก แต่ก็มีความสวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นยอดดอยที่สูงกว่าดอยอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงกัน และในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นที่อยู่อาศัยของชาวปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยงโปว์) ที่มีวิถีชีวิติอยู่อย่างเรียบง่ายพึ่งพาอาศัยอยู่อย่างกลมกลืนกับสภาพตามธรรมชาติมายาวนานหลายชั่วอายุคน
บนดอยแห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าชุมชน ถึงแม้จะมีความสูงชัน แต่รถยนต์เข้าถึงได้เป็นส่วนมาก และมีระยะทางเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 850 เมตร เรียกว่าเดินไม่ไกล ใครเดินป่าไม่เก่งก็สามารถเดินได้ และเส้นทางเดินได้รับการพัฒนาจากองค์การบริหารส่วนตำบลแม่คะตวน อ.สบเมย ให้สะดวก ปลอดภัยมากขึ้น มีราวสะพานจับกันลื่น และปรับทางเดินลาดชันบางช่วงให้เป็นแบบบันได ลดความเหน็ดเหนื่อยลงได้มาก บนลานยอดดอยพุ่ยโคเป็นลักษณะพื้นที่ราบบนยอดเขา ทาง อบต.ก็ได้ปรับเส้นทางเดินชมวิว มีราวกันตก ที่ไม่ขัดต่อสภาพธรรมชาติ มีหอดูดาวและชมวิวได้รอบทิศ
จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปดอยพุ่ยโค คือ สามารถชมวิวทะเลหมอกได้ 360 องศา และหมอกสวยงามกว่าที่คาดหวังไว้ จึงเป็นสถานที่ที่นักล่าหมอกไม่ควรพลาด มีทะเลหมอกสลับกับยอดเขาที่ดูเหมือนเกาะกลางทะเล
รวมทั้งมีต้นเดียวดาย ซึ่งจริงๆ แล้วคือต้นสารภีป่า เป็นต้นไม้ที่มีรูปร่างสวยงามขึ้นตระหง่านริมผาอยู่หนึ่งต้น นักท่องเที่ยวจึงขนานนามว่าต้นเดียวดาย บางคนมองเห็นต้นไม้นี้เป็นรูปหัวใจ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นมักจะนิยมไปอธิษฐานหรือบอกเล่าความในใจเกี่ยวกับความรัก เพราะเชื่อต่อกันมาว่าต้นเดียวดายนี้จะรับฟังและยอมรับความเดียวดายไว้เอง ทำให้ผู้ไปปรับทุกข์เกิดความสบายใจ และเชื่อว่าตนจะไม่อยู่เดียวดายอีกต่อไป
สิ่งอำนวยความสะดวกบนดอยพุ่ยโค ทาง อบต.แม่คะตวนได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างห้องสุขาที่มิดชิดปลอดภัยบริการให้นักท่องเที่ยวพร้อมมีถังสำรองน้ำฝนไว้หลายพันลิตร ทำให้ดอยพุ่ยโคมีความสะดวกน่าไปท่องเที่ยว พร้อมมีลานกางเต็นท์ ป้ายถ่ายรูปหลายจุด แต่ใกล้หอชมดาวจะมีพื้นผิวของลานพักผ่อนที่ชำรุดผุพังตามกาลเวลา จึงขอให้นักท่องเที่ยวโปรดระมัดระวังเป็นพิเศษ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการสัมผัสทะเลหมอกดอยพุ่ยโค ได้แก่ปลายฝนต้นหนาว คือช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งมีอากาศหนาวเย็น ใครที่จะไปควรเตรียมชุดกันหนาวด้วยเนื่องจากบนยอดดอยมีลมแรง ผู้มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์
การเดินทาง หากนับจากที่ว่าการอำเภอสบเมย ใช้ทางหลวงหมายเลข 105 (ขึ้นไปทางเหนือ ทางไป อ.แม่สะเรียง) ประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงสี่แยกบ้านแม่คะตวนให้เลี้ยวขวาตามทางผ่านหมู่บ้านต่างๆ ไปประมาณ 14 กิโลเมตร เส้นทางนี้เหมาะสำหรับรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ 2 แบบยกสูง และทางชุมชนไม่อนุญาตให้รถตู้-รถเก๋ง เดินทางเข้าไป เนื่องจากเส้นทางผิวทางบางช่วงชำรุด และคดเคี้ยวลาดชัน สำหรับช่วงฤดูฝนอาจมีอุปสรรคการเดินทาง เช่น ดินถล่มทับทาง ผิวทางเส้นทางชำรุดบางช่วงจากน้ำฝนกัดเซาะ
เมื่อผ่านหมู่บ้านอุมดาเหนือ จะพบศาลาพักผ่อนและมีลานจอดรถยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถได้บริเวณนี้ ซึ่งเป็นจุดที่จะสามารถพบตาน้ำที่ไหลจากใต้ดินซึมผ่านออกมาได้อย่างชัดเจน เมื่อจอดรถเสร็จแล้วก็ให้เดินเท้าต่อไปตามทางคอนกรีตเสริมเหล็กที่เดินสะดวก ประมาณ 100 เมตร
ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้ทุกคนแทบจะลืมความเหน็ดเหนื่อยไปในทันที เพราะสิ่งที่เห็นคือวิวทะเลหมอกที่สวยงามกว้างไกล มีต้นเดียวดายรอต้อนรับ และป้ายให้ถ่ายรูป มีลมเย็นพัดโชยมาอย่างต่อเนื่อง มีทางเดินชมวิวเป็นทางยาวที่สะดวกพร้อมราวกันตก สำหรับบนลานยอดดอยมีพื้นที่ต่อเนื่องเป็นลานกางเต็นท์ หอดูดาว และห้องสุขา พร้อมถังสำรองน้ำ
สำหรับนักท่องเที่ยวผู้สนใจสามารถติดต่อรถนำเข้าแหล่งท่องเที่ยวดอยพุ่ยโค ผู้นำทาง และลูกหาบในชุมชน สำหรับหาบหามสัมภาระได้ที่นายนที (ชาวบ้านในพื้นที่) โทรศัพท์ 06-4846-2501 หรือสิรภาส ทองพันธ์ กลุ่มวิสาหกิจการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและธรรมชาติอำเภอสบเมย (สิริกรฟาร์ม) นักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมเรียกว่า “ลุงเอก กลอเซโล” บ้านเลขที่ 157 หมู่ที่ 1 ตำบลแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58110 โทรศัพท์และ Line 08 6181 3766 Facebook (page) : สิรกรฟาร์ม เมืองสามหมอก
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน เลขที่ 4 ถนนราชธรรมพิทักษ์ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000 โทรศัพท์ 0-5361-2982-3 โทรสาร 0-5361-2984 Facebook (Page) ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน ในวันและเวลาราชการ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์