กรณีเด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยม 2 ของโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดแพร่ มาเรียนนาฏศิลป์ แล้วเดินไปชื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาประตูชัย อ.เมืองแพร่ กับเพื่อนอีกสองคน เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 19.50 น. ถูกหญิงสาวกับเพื่อนสาวประเกทสองกล่าวหาว่านักเรียนมองหน้าหาเรื่อง และตามไปทำร้ายที่บริเวณท่าน้ำคือเอาเท้าเหยียบศีรษะ บังคับให้กราบเท้า และรีดไถเงิน ซึ่งมีการนำคลิปไปเผยแพร่กระฉ่อนโลกโซเชียลฯ นั้น
ต่อมานายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบและดูแลเยียวยา ขณะที่ พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร ผบก.ภ.จว.แพร่, พ.ต.อ.สายัณห์ จันทร์แจ่มกระจ่าง รอง ผบก.ภ.จว.แพร่, พ.ต.อ.นรินทร์ วรรณมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ โดยสั่งการและมอบหมายให้ พ.ต.ท.อุทัย เวียงทอง รอง ผกก.(สอบสวน) หน.งานสอบสวน สภ.เมืองแพร่, พ.ต.ท.เนติศักดิ์ ชูสกุลนิติสินธ์ รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ, พ.ต.ท.กฤษฎา สิทธิภณธนากร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองแพร่, ร.ต.อ.กฤษกร หงษ์งาม พงส.สภ.เมืองแพร่, ร่วมกับพนักงานอัยการ, สหวิชาชีพ, ที่ปรีกษากฎหมาย ร่วมสอบปากคำผู้เสียหายและผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 19 ส.ค.โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และนายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ ร่วมสังเกตการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ในข้อหา “ทำร้ายร่างกาย, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, กรรโชกทรัพย์” ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินการตามกฎหมาย