วงจรปิดจากหอพักแห่งหนึ่งในหมู่บ้านชัยสถาน ต.อุโมงค์ อ.เมืองลำพูน บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คนบุกอุ้มหนุ่มชาวไทใหญ่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากถูกรุมซ้อม ก่อนจะถูกชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนอุ้มออกจากหอพักดังกล่าว พาขึ้นรถขับออกไปทางทิศเหนือหายไปช่วงเวลา 23.04 น.ของวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา จนทำให้ผู้ที่พักอาศัยในหอพักดังกล่าวต่างแตกตื่นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวิ่งออกมามุงดูหลังจากชายคนดังกล่าวถูกอุ้มหายไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธร จ.ลำพูน ได้ลงพื้นที่สอบปากคำผู้หญิงที่พักอาศัยในหอพักดังกล่าวที่เห็นเหตุการณ์คืนเกิดเหตุ คนดูแลหอพักแห่งนี้ระบุว่าชายคนดังกล่าวชื่อนายจ๋อมวัน ลุงตี้ อายุ 30 ปี เพิ่งเข้ามาเช่าห้องอยู่กับนายมาต (นามสมมติ) ชาวไทใหญ่อายุ 50 ปี เมื่อประมาณ 20 วันก่อน ส่วนใหญ่นายมาตจะไปทำงานที่สวนของนายจ้าง หากนายจ๋อมวันจะเข้าห้องพักต้องรอให้นายมาตเปิดประตูห้องให้ ซึ่งช่วงเวลาที่เกิดเหตุนายจ๋อมวันได้อยู่ในห้องคนเดียว ก่อนจะมีชายฉกรรจ์บุกเข้ามาอุ้ม
ด้านนางเพ็ญ (นามสมมติ) ผู้ที่พักอาศัยห้องใกล้กับนายจ๋อมวัน เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดหน้าหอพักจึงแง้มหน้าต่างแอบดูเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถกระบะมาจอดหน้าหอพัก ก่อนที่ชายทั้ง 3 คนจะถือค้อนปอนด์มาด้วย ไปเคาะประตูเรียกแต่ไม่มีใครเปิดประตู จึงได้ใช้ค้อนปอนด์ที่พกมาด้วยทุบพังประตูเข้าไปพร้อมกับรุมซ้อมชายที่อยู่ในห้องจนร้องส่งเสียงดังลั่นหอพัก แต่ตนและคนที่อยู่ในหอพักไม่กล้าออกมาช่วย เนื่องจากกลัวว่าจะได้รับอันตราย
จากนั้นตนจึงเห็นชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนลากชายคนดังกล่าวออกมาจากห้องพักและหิ้วปีกพาขึ้นรถกระบะคันดังกล่าวขับไปทางทิศเหนือหายไป หลังเกิดเหตุตนและคนที่พักอาศัยอยู่ในหอพักต่างออกมาดูหน้าห้องที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดเป็นทางยาว ก่อนผู้ที่พักอยู่ในหอพักได้โทรศัพท์แจ้งคนดูแล และเจ้าของหอพักทราบและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำพูน แต่นับจากเกิดเหตุคืนดังกล่าวก็ไม่มีใครเห็นหน้านายจ๋อมวันที่ถูกชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนอุ้มจากห้องพักอีกเลย
และเมื่อ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุพจน์ สุวรรณ์ สว.สอบสวน สภ.แม่ริม ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกฆ่าทิ้งบริเวณป่าภายในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย หมู่ 1 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจึงได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพิงค์และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบศพชายอายุประมาณ 30 ปี สภาพคว่ำหน้า มีลายสักตรงแผ่นหลังและแขนทั้งสองข้าง ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นสีขาว ถูกมัดมือมัดเท้า บริเวณศีรษะข้างขวามีรอยถูกของมีคมฟัน มีรอยลากศพมาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว ซึ่งแพทย์คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 2-3 วัน เพราะสภาพศพเน่าอืดและส่งกลิ่นเหม็น
บริเวณใกล้จุดพบศพเป็นถนนสายแม่ริม-สะเมิง กิโลเมตรที่ 6 พบรอยเลือดขอบถนน คาดว่าจะเป็นจุดที่คนร้ายลากผู้ตายลงมา ซึ่งระหว่างทางที่ลากพบเชือกรัดของสีเขียวตกอยู่ด้วย หลังตรวจที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลนครพิงค์
สำหรับจุดที่พบศพ ชาวบ้านเรียกว่าโค้งสลิง ซึ่งเป็นโค้งที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และชาวบ้านเชื่อว่าเป็นโค้งอาถรรพ์ มีคนนำศาลพระภูมิเก่ามาทิ้งไว้จำนวนมาก เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นเป็นวัยรุ่นทะเลาะกัน ทำร้ายแล้วนำศพทิ้ง ซึ่งจะเร่งตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เป็นคนไทยหรือต่างด้าว มีเหตุคนหายแจ้งความไว้ที่ สภ.ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หรือ จ.ลำพูน หรือไม่
ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้ประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่พบศพชายคนดังกล่าว ยืนยันว่าศพชายคนดังกล่าวที่พบในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุคคลคนเดียวกันที่ถูกชายฉกรรจ์ 3 คนอุ้มหายออกจากหอพักฯ บ้านชัยสถาน ต.อุโมงค์ อ.เมืองลำพูน เมื่อกลางดึกของวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ชื่อนายจ๋อมวัน ลุงตี้ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/ส หมู่ที่ 7 ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายมาต ที่พักอาศัยอยู่ห้องเดียวกับผู้ตายมาสอบปากคำเพื่อสืบสวนหาตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้