หน้าแรก
ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เชียงใหม่ , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. ฝ่ายปกครองอำเภอจอทอง ขยายผลเข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าจอมทอง ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ป่า เชิงดอยอินทนนท์ หลังมีนายทุนจ้างชาวบ้านแผ้วถางป่า รอออกเอกสารสิทธิ์ พบมีการบุกรุกที่ป่า 4 แปลง พื้นที่ทั้งหมดรวม 80 ไร่ จากการสอบข้อมูลเชิงลึกพบผู้นำชุมในพื้นที่เกี่ยวข้องกับขบวนการบุกรุกที่ป่า
นายสัมพันธ์ พุดด้วง ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ นำกำลัง เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 บก.ปทส.ชุดสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่-ฮอด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.33 , เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติฯ ตำรวจภูธร ภาค 5 และฝ่ายปกครอง อ.จอมทอง กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าจอมทอง ท้องที่บ้านหนองห่าย ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ป่า เชิงดอยอินทนนท์
ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลหลังจากก่อนหน้านี้ 2 วัน เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้จับกุมผู้ต้องหาบุกรุกพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวรวม 8 ราย ตรวจยึดที่ดิน 8 ไร่ โดยก่อนหน้านี้หลังได้รับการร้องเรียนว่า กลุ่มบุคคลได้ลักลอบเข้าไปแผ้วถางป่าบริเวณดังกล่าว เพื่อเตรียมนำที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ โครงการจัดที่ดินทำกินให้แก่ชุมชนตามนโยบายของรัฐ (คทช.) ซึ่งภาครัฐจะออกโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินให้กับประชาชนและเกษตรกรที่เคยทำกินมาก่อนเท่านั้น แต่พื้นที่ป่า ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึด พบว่ามีนายทุนได้ว่าจ้างให้ชาวบ้านเข้าไปแผ้วถางป่าเพื่อรอออกเอกสารสิทธิ์
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดพื้นที่ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าจอมทอง ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง และเขตอุทยานแห่งชาติแม่วาง ทั้งหมด 4 แปลง รวม 80 ไร่ 54 ตารางวา เมื่อมองจากภาพถ่ายมุมสูงจากโดรนจะเห็นได้ว่ามีลักษณะแบ่งเป็นแปลงอย่างชัดเจน จากการตรวจเบื้องต้นพบว่ามีการเข้าไปบุกรุกหลายจุดคาดว่ามีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ กินพื้นที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติแม่วาง อ.ดอยหล่อ และแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังผาช่อ ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนข้อมูลเชิงรุกพบว่านายทุน และผู้นำชุมชนบางคนในพื้นที่ อ.จอมทอง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกพื้นที่ป่าในบริเวณดังกล่าวโดยว่าจ้างให้ชาวบ้านที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้รายล่ะ 500 บาท เข้าไปแผ้วถางป่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวน ติดตามจับกุมกลุ่มบุคคล ที่อยู่เบื้องหลังการบุกรุกพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวมาดำเนินคดีข้อหา ก่อสร้าง แผ้วถางบุกรุกพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ , ครอบครองพื้นที่ป่าที่ได้ถูกแผ้วถางฯ , ครอบครอง ทำประโยชน์พื้นที่ป่าอันเป็นการทำให้เสื่อมสภาพป่าสงวนแห่งชาติ , ยึดถือครอบครอง ก่อสร้างแผ้วถางทำให้เสื่อมสภาพแก่ป่าชุมชน ต่อไป 000000000จบ000000000
